THREL ส่งซิกแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 2567 ฟื้นตัวต่อเนื่อง โชว์ไตรมาส 2/67 พลิกมีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อรับโต 8% แตะ 1,082 ล้านบาท เร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ “ซ่อม-สร้าง” เสริมแกร่ง พร้อมขยับขึ้นค่าเบี้ยประกันสุขภาพ-ทบทวนสัญญาที่กระทบผลการดำเนินงาน ผลักดัน Loss Ratio – Combined Ratio กลับสู่เกณฑ์เป้าหมาย
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2567 มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง จากไตรมาส 2/2567 ที่พลิกมีกำไรสุทธิจำนวน 13 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 1/2567 ขาดทุนจำนวน 87 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อรับเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 1,082 ล้านบาท โดยเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโต 14% แตะ 894 ล้านบาท ตามการเติบโตของตลาดประกันสุขภาพ รวมถึงการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเบี้ยประกันสุขภาพกลุ่ม
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมเพิ่มขึ้นราว 18% อยู่ที่ 868 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากค่าสินไหมทดแทนรวมเพิ่มขึ้นราว 203 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัย และอัตราค่ารักษาพยาบาล (Medical Cost Inflation) ของผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่สำรองประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะยาวลดลง 78 ล้านบาท เป็นผลจากการลดลงของการตั้งสำรองที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ตามหลักการคำนวณของนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ส่งผลให้อัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined ratio) ขยับลดลงมาอยู่ที่ 100.5%
นายวิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯได้ดำเนินการทบทวน และปรับราคาค่าเบี้ยประกันสุขภาพแล้วบางสัญญาสำหรับการต่ออายุใหม่ และกำลังปรับปรุงสัญญาที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน เพื่อผลักดันอัตราค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ย (Loss ratio) และอัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined ratio) กลับเข้าสู่เกณฑ์เป้าหมายในอนาคต ควบคู่ไปกับการเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “ซ่อม-สร้าง” เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว
โดยกลยุทธ์ “ซ่อม” บริษัทจะเน้นซ่อมเสริมพอร์ตให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการดูแลรักษาคุณภาพการรับงานใหม่ๆ เพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยฉพาะงานด้านประกันสุขภาพกลุ่ม ที่ส่วนใหญ่ได้รับผลโดยตรงจากการปรับขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาล (Medical Cost Inflation) ขณะที่กลยุทธ์ “สร้าง” บริษัทฯยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะประกันสุขภาพรายบุคคลที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น ตามภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิต ภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุม