ธนชาตประกันภัย โชว์ผลงานปี 265 คว้าเบี้ยรับรวม 10,320 ล้านบาท เติบโต 24% ปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยรวมพุ่ง 1.2 หมื่นล้าน โตต่อเนื่อง 16% ปักธงผู้นำนวัตกรรมประกันภัย รุกหนักทุกช่องทางขาย เจาะตลาดประกันรถยนต์ไฟฟ้า ขยายฐานประกันภัยรถบรรทุกเพิ่มสัดส่วนลูกค้าประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว พร้อมยกระดับงานบริการแบบจัดเต็ม เดินเครื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยบริหารทุกความเสี่ยง
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม12,000 ล้านบาท เติบโต 16% ด้วยการสนับสนุนจาก บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง พร้อมผลักดันให้ธนชาตประกันภัยเติบโตมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจประกันวินาศภัยลูกค้ารายย่อย
สำหรับการรุกตลาดประกันภัยในกลุ่มที่ตลาดเติบโต โดยปีที่แล้วบริษัทได้รับประกันภัยให้แก่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,000 คัน จากนุฯจดทะเบียนทั้งระบบ 10,000 ค้น ซึ่งปีนี้ ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) 20% ของรถ EV ที่คาดจดทะเบียน 50,000 คัน โดยมีเป้าหมายจะเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรถ EV ส่วนรถบรรทุกจำนวน 3,000 คัน เบี้ยเติบโต 300% โดยปีที่แล้ว ได้มายังไม่มากนักเพราะทั้งระบบมีจำนวน 5 แสนคัน แตาเห็นว่าเป็นตลาดที่ยังขยายไปได้อีกมาก เนื่องจากช่วงก่อนโควิด รถบรรทุกมีจำนวนถึง 1 ล้านคัน
สำหรับภาพรวมความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา ธนชาตประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 10,320 ล้านบาท เติบโต 24% มีกำไรสุทธิ 697 ล้านบาท โดยมาจากประกันภัยรถยนต์ 89% จากทุกช่องทางการจำหน่าย พร้อมฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้สถาบันทริสเรทติ้งยังคงจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ระดับ AA- (stable) สะท้อนมุมมองให้เห็นว่าธนชาตประกันภัยมีศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในระดับที่ดีมาก
สำหรับกลยุทธ์ 5 ขุมพลัง (Thanachart Insurance, The power of protection ธนชาตประกันภัยขุมพลังที่ให้คุณมากกว่า)
1. The power of protection. พลังของการดูแลความเสี่ยงให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมและตรงกับความต้องการ ในปีนี้จะมุ่งขยายตลาดประกันภัยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) และประกันภัยคุ้มครองรถบรรทุก (Truck) โดยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะบุกทั้งป้ายแดงและปีต่ออายุ เน้นให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาป พร้อมบริการหลังการขายระดับพรีเมี่ยมมาตรฐานของธนชาตประกันภัย โดยเฉพาะความกังวลเรื่องแบตเตอรี่รถหมดระหว่างการเดินทาง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินประสานรถยกไปจุดชาร์ตที่ใกล้ที่สุดในรัศมี 20 กม. รวมถึงการพัฒนาบริการครบวงจร เพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้นำในตลาดประกันภัยรถไฟฟ้า นอกจากนี้ได้ขยายความเชี่ยวชาญไปยังตลาดรถบรรทุกใหญ่ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถบรรทุกใหญ่ ที่มีทั้งแบบประเภท 1 สำหรับรถบรรทุกใหญ่อายุ 1-10 ปี และประเภท2+ สำหรับรถบรรทุกใหญ่อายุเกิน 10 ปี ในรูปแบบแพ็กเกจที่เข้าใจง่าย มีความชัดเจนเรื่องทุนประกันภัยและเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย ในขณะเดียวกันจะเพิ่มสัดส่วนในผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองสินเชื่อ ประกันภัยคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับกลุ่มครอบครัว เพื่อช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินให้กับลูกค้าด้วย
2. The power of partnerships. พลังของการเสริมเครือข่ายพันธมิตรให้ครอบคลุมทั่วประเทศและทุกช่องทางโดยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรปัจจุบันเพื่อรักษาฐานการตลาด ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมให้กับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของบริษัทและยังขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ด้วย พร้อมกันนี้ ธนชาตประกันภัยยังได้ดำเนินการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพและภูมิภาค ทั้งในกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อ โบรกเกอร์ และดีลเลอร์ที่ขายงานรถ EV และรถบรรทุกโดยตรงอย่างต่อเนื่อง
3. The power of ultimate services. พลังของการสร้างประสบการณ์งานบริการที่เหนือกว่า ธนชาตประกันภัยพัฒนางานบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งด้านเครือข่ายอู่ซ่อมรถยนต์และศูนย์บริการที่มีมาตรฐานครอบคลุมทุกจังหวัดกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็น Digital Insurance โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การให้บริการผ่าน Line Service “ธนชาตประกันภัย” ซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งอุบัติเหตุไปจนถึงต่ออายุกรมธรรม์ได้ง่ายๆ อีกทั้งยังเพิ่มบริการ Meet and Care ผู้ช่วยส่วนตัวดูแลงานซ่อมรถแทนลูกค้า ตั้งแต่การประสานงานกับอู่ซ่อมรถ รายงานสถานะงานซ่อมทุกระยะรวมถึงช่วยตรวจคุณภาพงานซ่อมก่อนส่งมอบรถคืนให้กับลูกค้า โดยปีนี้จะขยายพื้นที่บริการ Meet and Care ไปยังสาขาธนชาตประกันภัยเพิ่มเติมอีก 14 แห่ง และยังได้เปิดตัวบริการ “Photo Claim” ซึ่งให้ลูกค้าสามารถจัดการงานเคลมได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัยให้บริการซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความสะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น
4. The power of technology พลังสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้ข้อมูล ธนชาตประกันภัยให้ความสำคัญกับระบบ Information Security Management System (ISMS) ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศซึ่งได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC 27001:2013 แล้ว ยังได้พัฒนาระบบการทำงานแบบ Automate โดยใช้เทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) มาประยุกต์ใช้เพื่อลดเวลาดำเนินการ อาทิ ขั้นตอนการจัดอะไหล่ได้ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาทีม Data Scientist ผนวกกับการลงทุนโครงสร้างด้าน Infrastructure จัดทำ Data - Lake เพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านผลิตภัณฑ์และบริหารประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
5. The power of people พลังของบุคลากร ธนชาตประกันภัยเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยผลสำเร็จของงาน จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรผ่าน IDO Culture ทั้งเรื่องของ Insightful มีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ Dynamic ยืดหยุ่น ความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว และ Optimal รู้จักวางแผนพร้อมจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างมาตรฐานการทำงานให้มีความสุข เน้นผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงาน โดยนำเครื่องมือด้านบริหารบุคลากรมาใช้ในหลายมิติ อาทิ การจัดทำOKR และ KPI, ส่งเสริมรูปแบบการทำงานแบบ Agile, การปรับวิธีการทำงานให้สอดรับกับคนรุ่นใหม่ เช่น การปรับสำนักงานให้เป็นแบบ Hybrid Workplace
“เราเป็นบริษัทประกันภัยที่มีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยความแข็งแกร่งมั่นคงทางการเงิน บริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสร้างสรรค์คุณภาพงานบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ธนชาตประกันภัย ที่พร้อมจะมุ่งสู่อันดับ 1 ในใจของลูกค้าด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัย” นายพีระพัฒน์ กล่าว