อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เดินหน้าขยายธุรกิจองค์กร ส่งหน่วย Allianz Commercial บุกตลาดองค์กรขนาดกลางและใหญ่ในไทย มั่นใจปี 67 เติบโตก้าวกระโดด 20% ยอดเบี้ยแตะ 2.4-2.5 พันล้านบาท เปิด 5 กลุ่มเป้าหมายที่สนใจ "ประกันภัยสินทรัพย์-กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง-กลุ่มประกันความรับผิดชอบ-กลุ่มธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ-กลุ่มธุรกิจเดินเรือและขนส่งทางทะเล"
มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่บริษัทเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยภาพรวมเบี้ยเติบโตเร็วกว่าตลาดถึงสองเท่า สำหรับปีนี้ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ ขยายธุรกิจประกันภัยองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับความเสี่ยงขององค์กรขนาดใหญ่ ทั้งจากเหตุการณ์ที่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ หรือ เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอันดับต้นของประเทศไทย จากผลสำรวจ Risk Barometer ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี วันนี้ จึงได้มีการเปิดตัว Allianz Commercial ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยคาดว่า ปี 2567 บริษัทจะสามารถเติบโตพอร์ทธุรกิจองค์กรได้ 20% จากสิ้นปี 2566 ที่มีเบี้ยดังกล่าว 2,000 ล้านบาท เป็น 2,400-2,500 ล้านบาทในปีนี้
หน่วยธุรกิจ Allianz Commercial อยู่ภายใต้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จะได้รับการสนับสนุน ด้านองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ เครือข่ายของกลุ่มอลิอันซ์ ที่มีในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรข้ามชาติ มีธุรกิจในหลายประเทศ หรือ มีลักษณะธุรกิจที่พิเศษ ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางด้านการพิจารณาประกันภัย เพื่อดูแลความเสี่ยง
มร.คริสเตียน แซนดริก ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชีย Allianz Commercial กล่าวเสริมว่า แผนการเติบโตในไทย สอดคล้องกับการขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่งทั่วภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของอลิอันซ์ ที่เราจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กอปรกับความพร้อมของโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าดึงดูดในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ
"เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การขับเคลื่อนที่มุ่งการประกันภัยสู่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัยได้เป็นอย่างดี ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มอลิอันซ์ และความมั่นคงแข็งแกร่ง ในฐานะบริษัทประกันภัยระดับโลก เชื่อมั่นว่า จะสามารถเติบโตพอร์ทธุรกิจองค์กรได้ 20% และในระยะยาวเราอาจเติบโตมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ เพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในตลาดนี้ เรามาที่นี่ ตั้งใจสร้างการเติบโตยาวๆมั่นคง โดยเวลาในการพิจารณารับประกันภัยจะพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและวิเคราะห์อย่างครอบคลุมความเสี่ยงภัยและราคาเบี้ย เราต้องการเติบโตไปกับพันธมิตรยาวๆ"
นางเดือนฉาย โกศลเมธากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานลูกค้าองค์กร กล่าวถึง การดำเนินงานของธุรกิจองค์กรในประเทศไทย ว่า สำหรับกลุ่มความเสี่ยงที่ อลิอันซ์ อยุธยา ให้ความสนใจ มี 5 กลุ่ม ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มประกันภัยสินทรัพย์ (Property) โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยและมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลก ที่มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากบริษัทเดียวที่มีศักยภาพรอบด้าน กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง (Engineer) ที่ดำเนินโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจก่อสร้างด้านพลังงานหมุนเวียนและโรงงานไฟฟ้า กลุ่มประกันความรับผิดชอบ (Liability) เช่น สินค้าส่งออก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม ความเสียหายของสินค้าในการดำเนินธุรกิจ กลุ่มธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น ธุรกิจบันเทิง (Specialty eg entertainment) เช่น การจัดคอนเสิร์ตการแสดงขนาดใหญ่ระดับชาติ และ กลุ่มธุรกิจเดินเรือและการขนส่งทางทะเล (Marine) ทั้งเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า รวมถึงเรือยอร์ชและเรือเพื่อการท่องเที่ยวด้วย
การดำเนินงานของธุรกิจองค์กรจะเน้นขยายธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1 ผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครบวงจร หลากหลายสำหรับทุกธุรกิจ 2 ต่อยอดความเชี่ยวชาญและเครือข่ายระดับโลกของอลิอันซ์ ที่จะทำให้อลิอันซ์ อยุธยา กลายเป็นศูนย์กลางของการให้บริการประกันภัยในเอเชีย สำหรับบริษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในเอเชีย และ 3 โซลูชั่นประกันภัยที่ตอบโจทย์ทุกช่องทางการขาย ไม่ว่าจะช่องทางตัวแทน โบรกเกอร์ ช่องทางพันธมิตร และช่องทางขายตรง รวมทั้งการรับประกันภัยต่อ