iiG ที่ปรึกษาชั้นนำด้านเทคโนโลยีแห่งยุคดิจิทัลและบริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เปิดตัว
บริษัทย่อยใน “iiV” พร้อมผลิตภัณฑ์ “Moverse” ดิจิทัลโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ เดินหน้าลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลอินชัวรันส์แบบครบวงจร เสริมแกร่งผู้นำ Digital Transformation
นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ iiG และ ประธานบริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ iiV เปิดเผย ว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล มากว่า 3 ทศวรรษของ iiG ที่ช่วยนำพาองค์กรชั้นนำของไทยทรานสฟอร์มเข้าสู่ยุคดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรม สามารถตอบทุกโจทย์ธุรกิจ และปรับตัวตามโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนธุรกิจประกันภัยที่มีแนวโน้มการเติบโต iiG มองเห็นโอกาสการต่อยอดอุตสาหกรรมประกันในประเทศ จึงต้นก่อตั้ง บริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ iiV และพัฒนาแพลตฟอร์มอินชัวร์เทค (Insurtech) ขึ้นในปี 2564 โดยสร้างแพลตฟอร์มกลาง สำหรับธุรกิจประกันภัย รองรับการให้บริการบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมประกัน ทั้งรายใหญ่และรายย่อย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนการลดค่าใช้จ่ายด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
ทั้งนี้ บริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ iiV มุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ ครอบคลุม ประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และ ประกันอุบัติเหตุ อัคคีภัย วินาศภัยอื่นๆ ( Non-Motor Insurance) รวมถึง ระบบการดำเนินงานสำหรับธุรกิจประกัน ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ผ่านการใช้งานในหลายรูปแบบทั้งด้านการถ่ายภาพ เสียง และการวิเคราะห์ข้อมูล
สำหรับผลิตภัณฑ์แรกของ iiV คือ “Moverse” เป็นแพลตฟอร์มโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการขาย การตรวจสภาพรถยนต์ ไปจนถึงกระบวนการเคลม ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทประกัน โบรกเกอร์ รวมไปถึงผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบ เช่น ผู้เอาประกัน ศูนย์/อู่ซ่อมรถยนต์ และช่วยยกระดับประสบการณ์ (Customer Experience) ของลูกค้า หรือ ผู้เอาประกัน
โดยฟังก์ชันแรก ที่ iiV เปิดให้บริการแล้ว คือ บริการตรวจสภาพรถยนต์ (Motor Inspection) ผ่านการถ่ายภาพ โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่มีความแม่นยำเรื่องความเสียหายสูงถึง 97% ขั้นตอนใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และลดระยะเวลาการนัดหมายการตรวจสภาพรถยนต์ ซึ่งต่างจากการตรวจสภาพรถยนต์รูปแบบเดิม โดยบริษัทประกัน หรือ นายหน้าประกัน (Broker) สามารถสร้างและส่งลิงก์การตรวจสภาพรถยนต์ไปให้ลูกค้า หรือผู้ตรวจสภาพรถยนต์ ผ่านทาง SMS หลังจากลูกค้า หรือผู้ตรวจสภาพรถยนต์ได้รับ SMS แล้ว ก็สามารถดำเนินการตรวจสภาพรถยนต์ผ่านบนมือถือสมาร์ทโฟนได้ด้วยตนเองทันที เพียงถ่ายรูปผ่าน Web Browser ซึ่งไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม โดย AI จะช่วยควบคุมคุณภาพของภาพถ่าย มุมการถ่ายภาพ แสง และการสั่น เพื่อให้ได้ภาพที่ถูกต้อง แม่นยำ และมีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถติดตามผลการอนุมัติผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้แบบ Realtime สำหรับบริษัทประกัน และนายหน้าประกัน (Broker) แพลตฟอร์ม Moverse จะช่วยลดต้นทุนการเดินทาง และระยะเวลาในการตรวจสภาพรถยนต์ ประกอบกับเทคโนโลยี AI ที่มีความแม่นยำสูง จะช่วยให้บริษัทประกันได้รับภาพถ่ายที่มีคุณภาพ ลดโอกาสในการเกิดความผิดพลาด เช่น ภาพถ่ายที่ไม่ชัดเจน หรือภาพไม่ครบถ้วนได้ นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยประเมินความเสียหาย และประเมินราคาได้ ปัจจุบัน iiV ได้เริ่มให้บริการ Moverse สำหรับฟังก์ชันด้านการตรวจสภาพรถยนต์ แก่ธุรกิจประกันรายใหญ่ไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทจึงมีแผนขยายการให้บริการด้านการขายประกันรถยนต์ และการเคลม ภายในสิ้นปีนี้
“ แพลตฟอร์ม Moverse สำหรับประกันภัยรถยนต์ที่ iiV พัฒนาขึ้น เป็นแพลตฟอร์มกลาง (Common Platform) ที่เป็น Configuration-based สามารถปรับการใช้งานให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะเจาะจงของผู้ใช้บริการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น บริษัทประกัน หรือ นายหน้าประกัน (Broker) ทุกราย ที่เข้ามาใช้บริการได้ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นรายเล็ก หรือรายใหญ่ และให้บริการแบบจ่ายตามจำนวนครั้ง ที่ใช้งานจริง (Pay Per Use) หรือใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการให้บริการลดต่ำลง เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่า License การใช้ซอฟต์แวร์ ไม่ต้องจ้างที่ปรึกษาเพื่อวางแผนพัฒนาระบบ และที่สำคัญ เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการแบบครบวงจรหรือ End-to-End Platform รองรับ Customer Experience ในทุกขั้นตอนการบริการของบริษัทประกัน นับเป็นพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันภัยในประเทศไทย สู่รูปแบบดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ การพัฒนาโซลูชันส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมประกัน จะเป็นการทำเพื่อรองรับองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ในปัจจุบัน ด้วยภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้นและเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีดิสรัปชัน (Technology Disruption) และการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลถึงรูปแบบการทำงานและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้องค์กรต่างๆ พยายามหาทางที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุด ในขณะเดียวกันก็สามารถบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย และสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ วางแผนกิจกรรมการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ที่เข้าถึงและปรับให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่มแบบ 360 องศา และเป็นแพลตฟอร์มกลางที่ทุกองค์กรสามารถใช้ได้ จึงเป็นคำตอบสำหรับทุกธุรกิจในอุตสาหกรรมประกัน ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Moverse คือหนึ่งส่วนสำคัญในการต่อยอดธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ด้านการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีประกัน (Insurtech) และเทคโนโลยีสุขภาพ (Healthech) ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ” นายสมชาย กล่าว