Bitcoin ราคาร่วงแล้ว 40% ในช่วง 9 สัปดาห์หรือรอบ 3 เดือน นับจากเดือนพฤศจิกายน 2564 รวมทั้งราคาเหรียญอื่นๆ ทยอยปรับลดลง ส่งผลให้ขนาดตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ลดลงต่ำกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 3 เดือน
วันนี้ การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ร่วงสู่ 41,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน กดมูลค่าตลาดรวมคริปโทเคอร์เรนซี ต่ำกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลสภาพคล่องในระบบจะลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดวงเงิน QE และลดขนาดงบดุลก่อนกำหนด
โดยราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 41,000 ดอลลาร์ ลดลง 1,800 ดอลลาร์หรือลดลงกว่า 4% จากเมื่อวาน ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ย.2564
สำหรับราคาเงินบาทที่กระดาน Bitkub exchange อยู่ที่ประมาณ 1.42 ล้านบาท ส่วน Ethereum อยู่ที่ 109,000 บาท ลดลง 6.81% ราคาที่ปรับลดลง ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมคริปโทเคอร์เรนซีหลุด 2 ล้านล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1.96 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 4.27% จากวันก่อน
นายเอกราช ศรีศุภวิชากิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรในคริปโทฯ เนื่องจากราคาปรับขึ้นสูงมากในปีก่อน รวมทั้งมอเห็นว่าในอนาคตสภาพคล่องในตลาดจะลดลงจากนโยบายการเงินในการคุมเงินเฟ้อของสหรัฐ จะทำให้สภาพค่องตึงตัว
ทั้งนี้ ปีที่แล้ว ความเคลื่อนไหวของคริปโทฯ ปรับตัวขึ้นสูงมาก แต่เริ่มลดลงเรื่อยๆ นับจากเดือนธันวาคม 2564 ที่เริ่มมีการขายออกในเหรียญสกุลหลัก เช่น Bitcoin และ Ethereum รวมทั้งเหรียญยอดนิยม ทั้ง GameFi และ DeFi
สำหรับ Bitcoin ราคาจากจุดสูงสุดประมาณ 68,000 ดอลลาร์ เมื่อ 8 พ.ย.2564 จนถึงปัจจุบัน ราคาร่วงแล้วประมาณ 40% ในขณะที่ราคาหุ้นเทคโนโลยีที่เคยปรับขึ้นสูงในปีที่แล้ว ก็ปรับลดลงมากเช่นกัน เช่น Amazon ราคาร่วง 12% Apple ราคาตกลงมา 10% เป็นต้น
ดังนั้นปีนี้ จะเป็นปีที่เล่นคริปโทฯ ยากอีกปีหนึ่ง เนื่องจากมีปัจจัยลบค่อนข้างมาก ประกอบกับราคาในปีที่ผ่านมา ปรับขึ้นสูงมาก คาดว่าจะมีการขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ๆ