ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมลุยสินทรัพย์ดิจิตัล คาดเปิดตัว Thai Digital Exchange (TDX) ในไตรมาสที่สามของปีนี้ พร้อมปรับกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนสู้ตลาดต่างประเทศ
สินทรัพย์ดิจิตัลเป็นเทรนด์การลงทุนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ทุกธุรกิจไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะในโลกแห่งการลงทุน ในเมื่อ 5 แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตัลที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้ดึงดูดนักลงทุนเข้าทำการซื้อขายในสินทรัพย์ใหม่นี้ในช่วงเวลาเพียง 10 เดือนของปี 2564 มีจำนวนผู้ลงทุนกว่า 1.77 ล้านราย มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 4.5 พันล้านบาท ถ้าเทียบกับการเติบโตในอดีตของตลาดหลักทรัพย์ซึ่งใช้เวลาในการเติบโตในระดับดังกล่าวเป็นเวลาหลายปี
ดังนั้นเทรนด์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตัลค่อนข้างมาแรงและเป็นทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมากท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์พร้อมปรับเปลี่ยนโมเดลการทำธุรกิจไปตามยุคสมัย เพื่อรักษาขนาดของตลาดและการลงทุนไม่ให้เล็กลง และปรับกลยุทธ์เพื่อให้การเติบโจของสินทรัพย์ดิติตัลกับการเติบโตของหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์ในปัจจุบันเติบโตไปด้วยกัน ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าว
นายภากร กล่าวว่า TDX จะเป็นบริษัทลูกภายใต้การดำเนินการของ ตลท. โดยสินทรัพย์ที่เปิดให้ซื้อขายใน TDX จะเป็น โทเคน ดิจิตัล เพื่อการลงทุน เป็นสินทรัพย์แรก หรือ “ investment token”
เขากล่าวว่า ตลท. อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตัล จาก ก.ล.ต. และระหว่างนี้เตรียมคงามพร้อมด้านต่างๆ เพื่อการเปิดซื้อขายได้ในไตรมาสที่ 3 /65 นี้
การจัดตั้ง TDX นั้นจำเป็นต้องวางรากฐานด้านเทคโนโลยี หรือสะพานที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ ภายนอกได้ รวมทั้งสร้างดิจิตัล วอลเล็ต หรือผู้ให้บริการกระเป๋าเงิน การจัดเก็บทรัพย์สินให้ลูกค้า และอื่นๆ เพื่อให้เป็นระบบ ecosystem อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ต้องจัดการ ให้เชแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2
ซึ่งแพลตฟอร์มต่างๆ สามารถเชื่อมกับธนาคาร บริษัท หลักทรัพย์ บริษัทจัดการการลงทุน ผู้ให้บริการกระเป๋าเงิน และผู้ดูแลทรัพย์สินลูกค้า เช่น คัสโตเดียน
เขาคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก จะเห็นการระดมทุนในรูปแบบ โทเคน ดิจิตัล หรือ Initial Public Offering (ICO) จากหลายๆ บริษัทจดทะเบียน และการออกโทเคน จะเป็นหนึ่งในบริการแรก ๆ ที่มี หลังจากที่ TDX ได้รับใบอนุญาตฯ
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีความร่วมมือกับหลายบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตในการทำ ICO ซึ่งจะมีหน้าที่ในนำเสนอ ดิจิตัล โทเคน เข้ามา list ในตลาด TDX
ซึ่งหลังจากที่โครงสร้างพื้นฐานของ TDX มีเสถียรภาพ ขั้นตอนต่อไปจะรวมถึงการให้บริการซื้อขาย การหักบัญชี และบริการกระเป๋าเงินภายในที่คาดว่าจะปลอดภัยกว่าคู่ค้าภายนอก ก็จะพร้อมรองรับการซื้อขายโทเคน เหล่านั้น ใน TDX นายภากรกล่าว
TDX ในช่วงเริ่มต้น จะเน้นไปที่โทเคนการลงทุน (investment token) และจะพิจารณา โทเคนยูทิลิตี้ (utility token) เป็นสเต็ปถัดไป
“ดิจิตัล โทเคน เป็นเครื่องมือระดมทุนให้กับบริษัทจดทะเบียนได้ เพราะโทเคนเหล่านี้ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัล จึงเป็นเหตุผลที่ ตลาดหลักทรัพย์สนใจเปิด TDX ขึ้นมา แต่ไม่มีการนำเหรียญคริปโตมาซื้อขายใน TDX’ นายภากร กล่าว
โทเคน ดิจิตัล เป็นเครื่องมือในการลงทุนที่มีสินทรัพย์อ้างอิง ดังนั้นราคาของโทเคนจึงขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินทรัพย์จริง ไม่ใช่แค่อุปสงค์และอุปทานในตลาดอย่างคริปโตเคอเรนซีเท่านั้น เขากล่าว
โทเคน จะมีการะดมทุนคล้าย Private equity หรือเงินร่วมลงทุน (venture capital) และข้อดีของ ตลท.ก็คือสามารถทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตลาดดั้งเดิมและตลาดดิจิทัลได้อย่างราบรื่น นายภากร กล่าว
การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้หมายถึงการล่มสลายของสินทรัพย์แบบเดิมๆ เนื่องจากสินทรัพย์ทั้งสองประเภทมีจุดแข็งของตนเอง และรองรับวัตถุประสงค์ด้านเงินทุนและขนาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงสามารถอยู่ร่วมกันได้
บริษัทมีทางเลือกในการระดมทุนมากขึ้น ซึ่งต่อไปอาจจะเลือกที่จะระดมทุนจาก ICO เพราะใช้เวลาและเงินน้อยลงในกระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ในขณะที่หลายๆ บริษัทยังสามารถระดมทุนแบบเดิมด้วยต้นทุนที่ต่ำได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตัล เป็นเทรนด์การลงทุนโลกไปแล้วในปัจจุบัน ตลาดหุ้นหลายแห่งในโลก รวมทั้งภูมิภาคต่างปรับตัวเข้ากับเทรนด์ใหม่นี้ และหาวิธีการที่เหมาะกับแต่ละตลาด
“ไม่มีใครรู้อนาคตข้างหน้าเป็นอย่างไร เพราะเรื่องสินทรัพย์ดิจิตัล เป็นเรื่องใหม่ แต่เรารู้ว่าทุกคนให้ความสนใจมากและตลาดนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ไทย มองว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ เราต้องไม่ตกเทรนด์และจะทำอย่างไรให้ทั้งโลกเดิมและโลกใหม่เติบโตไปด้วยกัน” นายภากรกล่าว