ส่องหุ้น AMA

กับโค้งสุดท้ายไตรมาส 4/67

หุ้นโลจิสติกส์ อีกตัวที่น่าสนใจด้วยการเป็นหุ้นปันผลที่มีราคาต่อบุ๊คแวลูต่ำ อย่าง บมจ.อาม่า มารีน หรือ AMA ด้วยตัวธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางเรือระหว่างประเทศ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มและน้ำมันพืชชนิดต่างๆ ไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชียตะวันออก ขณะที่บริษัทย่อยให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางรถในประเทศ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง และไบโอดีเซล B100 เข้าซื้อขายในตลาด mai มาตั้งแต่ 22 ธ.ค.2559

ขณะที่ราคาปัจจุบันที่ 4.16 บาท รวมไปถึงอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ที่ 9.62% ขณะที่ P/BV 0.78 เท่า ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้รวม 2,351.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.70% และมีกำไรสุทธิ 232.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.53 ล้านบาท หรือ 6.19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 218.59 ล้านบาท

Clubhoon ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ  บมจ.อาม่า มารีน หรือ AMA ถึงทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4 ช่วงโค้งสุดท้าย ดังนี้

ในธุรกิจเรือในไตรมาส 4 มี 2 ปัจจัยหลัก ที่ต้องจับตาดู คือ 1. เศรษฐกิจจีนที่อยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจาก AMA มีการขนส่งไปยังประเทศจีนถึง 50-55% การชะลอตัวอาจจะต่อการสะสมสต็อกน้ำมันปาล์มที่ปกติจีนจะมีการสะสมในช่วงนี้เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงเทศกาลต้นปี หากไม่เกิดขึ้นหรือมีปริมาณน้อยลง ย่อมส่งผลต่ออัตราค่าขนส่งทางเรือที่อาจจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสนี้เหมือนทุกๆ ปีที่ผานมา 2. ทิศทางค่าเงินบาทที่ไม่ควรแข็งค่าเกินไปเพราะจะกระทบการส่งออก

ในส่วนของรถเอง ก็ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นรถขนส่งปัจจุบัน 334 คัน เป็นสิบล้อ 40 คัน อีก 294 คัน เป็น รถ 22 ล้อ ซึ่ง คุณพิศาล เชื่อว่า ภาพรวมของรถในไตรมาส 4 ทั้งรายได้และกำไรเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะปรับตัวปีขึ้นน่าจะมากกว่า 10%

นอกจาก 2 ธุรกิจหลักแล้ว AMA ยังมีธุรกิจที่ acquire ในนาม AMA logistic, TSSK และ AUTO logis ซึ่งในส่วนของ บริษัท ออโต้โลจิส หรือ  AUTO Logis ที่ให้บริการขนส่งรถยนต์ ทุกคนทราบดีว่า ปริมาณรถที่มีการซื้อขายภายในปีนี้ อยู่ที่ไม่เกิน 6 แสนคัน ซึ่งต่ำลงเยอะมาก และทำให้ตัวธุรกิจขนส่งรถไม่บูมเหมือนช่วง 2 ปีก่อน ดังนั้น รายได้จากตัวบริษัท AUTO logis ต้องปรับตัวลดลงแน่ รวมทั้งกำไรด้วย

แต่ว่า อีกส่วนหนึ่งที่เรา acquire มา 76% คือ บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด หรือ TSSK ที่ประกอบธุรกิจบริการขนส่งสินค้า หากเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ตัวนี้ก็ยังทรงๆ เพราะปริมาณตู้ ต้องบอกว่า ธุรกิจที่อยู่ใน Supply Chain ของปิโตรเคมีตอนนี้ราคาของจีนถูกมาก เพราะฉะนั้นผู้ส่งออกไทย ราคามีปัญหาอยู่ ทั้งเม็ดพลาสติกหรืออะไรก็ดี ซึ่งการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท 50% ขนเม็ดพลาสติก ก็เลยได้รับผลกระทบทำให้มียอดตู้ขนส่งปรับตัวลดลงบ้างในแต่ละเดือน ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการหาลูกค้ารายอื่นเข้ามาเสริม แต่ว่าจะเป็นขาจร ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ขนเม็ดพลาสติกที่มีสัญญามีปริมาณงานที่ค่อนข้างคงที่ แต่พอเป็นขาจร บางเดือนได้ บางเดือนไม่ได้ แต่มันอาจจะชดเชยได้ในบางส่วน

คุณพิศาล กล่าวว่า ภาพรวมเชื่อมั่นว่า ธุรกิจเรือยังทรงๆ เนื่องจากครึ่งปีแรกเราทำได้ดี เลยส่งผลให้ทั้งปี ทำให้เรืออยู่ในความสามารถที่ทำกำไร ที่น่าพอใจระดับหนึ่ง ส่วนรถนี่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปีที่แล้วกับปีนี้ เชื่อว่า จะมีตัวเลขที่เติบโตขึ้นมากกว่า 15% พอมาถึง bottom line ปีที่แล้วเราทำได้ single unit ปีนี้เราเชื่อว่า จะไปแตะที่ 10-11 ได้ ทั้งนี้ โดยภาพรวม ถ้าเดือนพ.ย.-ธ.ค. หากไม่มีแฟคเตอร์อะไรเข้ามา แต่ในภาพรวมผมก็เชื่อว่า  bottom line ของ AMA น่าจะดีกว่าของปีที่แล้ว

อัพเดทขุมกำลัง

ปัจจุบันมีเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีที่มีน้ำหนักบรรทุกประมาณ 3,000 ถึง 10,000 เมตริกตัน จำนวน 8 ลำ มีกำลังบรรทุกสูงสุดรวม 81,000 ตัน โดยพื้นที่ให้บริการอยู่ในภูมิภาค โดยไปจีน 50% ที่เหลือ 40% ไปยังอินเดีย บังกลาเทศ และประเทศในกลุ่มอาเซียน

มีแผนขยายเส้นทางไหม

คุณพิศาล ตอบว่า ปัจจุบันยังโฟกัสที่เอเชียเป็นหลัก ด้วยขนาดของเรือเรามันเหมาะกับการวิ่งไปกลับไม่เกิน 15 วัน หรือสูงสุดไม่เกิน 20 วัน แต่ถ้าเรามองว่า จะขยายเป็นเรือขนาดใหญ่มากๆ เป็น 30,000 ตันหรือ 35,000 ตัน หรือ 50,000 ตัน เราต้องมองว่า จะวิ่งส่งออกสินค้าไปยุโรป ไปอเมริกา ตอนนึ้เรายังไม่คิดถึงเรื่องนั้น

ภาพรวมการแข่งขัน

คุณพิศาล กล่าวว่า ทางเรือไม่ค่อยมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา โดยเฉพาะในภูมิภาคที่เราให้บริการอยู่ ไม่มีเจ้าของเรือใหม่ ทั้งไทย ทั้งต่างชาติ การขนส่งเราอยู่อันดับ 3 ปริมาณการขนส่งต่อปี มีแต่การปรับเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เห็นได้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง อันดับ 3 คงเดิม และปริมาณขนส่งของแต่ละบริษัทก็อยู่ในระดับเดิม ไม่มีใครปรับซื้อเรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ของ AMA เอง บางช่วงก็ 9 ลำ บางช่วงก็ 10 ลำ (ลำเล็กลำใหญ่รวมกัน) ความสามารถในการให้บริการ เราเคยขึ้นไปสูงสุด 96,000 ตัน แต่ตอนนี้เราอยู่ที่ 86,000 ตัน แต่เราไม่ได้คิดว่า เราจะเล็กลง

ฝากอะไรถึงนักลงทุน

คุณพิศาล กล่าวว่า สำหรับนักลงทุน หุ้น AMA เข้ามาตลาดตั้งแต่ปี 59 ตอนนี้เกือบจะ 8 ปีเต็ม ที่ผ่านมาผลประกอบการอาจจะมีการปรับตัวดีขึ้น และลดลงบ้างในบางช่วง แต่ก็เห็นว่า เราสามารถทำกำไรได้ตลอดทุกปี ถ้ามาดูจากราคา ราคาต่อบุ๊คแวลูค่อนข้างต่ำประมาณ 0.6 -0.7 กว่า แล้วปันผลเราค่อนข้างดี 9-10% เป็นตัวเลขที่อาจจะพิจารณา สำหรับประเภทของธุรกิจการให้บริการขนส่งทางเรือ ผมยังมองว่า มันเป็นธุรกิจที่มันมีความยั่งยืนแน่ โดนดิสทรับได้ยาก เพราะมันเป็นธุรกิจที่ให้บริการขนส่งที่ถูกที่สุด และพันธมิตรของเราเอง ลูกค้าหลักของเราค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งทางรถและทางเรือ ส่วนตัวมองว่า ธุรกิจยังไปได้ดี ไปได้สวยครับ ก็ฝากนักลงทุนพิจารณา