บทความ

ประกันภัยปีเสือ…อย่าดุน่ะ !!
29 ธ.ค. 2564

ธุรกิจประกันภัยไทยก้าวข้ามกาลเวลาสู่ปีพุทธศักราช 2565 เป็นนักษัตรปีขาล ถ้าลบเรื่องราว “ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ” ออกไป  ธุรกิจประกันภัยรูดม่านปิดพุทธศักราช 2564 ได้อย่างงดงามจริงๆ

 

ร่ำลือกันว่าบริษัทประกันชีวิตบางบริษัทจ่ายโบนัสถึง 10 เท่า

 

ขณะที่ฝั่งวินาศภัยแม้จ่ายโควิดไปเยอะ บ่นโอดครวญว่า “ขาดทุน” แต่ยังมีโบนัสให้พนักงานชื่นใจ  จ่ายกันตั่งแต่ 1 เดือนยัน 6 เดือน

 

ส่วนผลประกอบการที่วัดด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม ขณะนี้ตัวเลขยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่สำนักงานคปภ.เคยประเมินมาก่อนหน้าว่า เบี้ยประกันปี 64 จะเติบโต 1.29-3.49% หรือ 8.7 แสนล้านบาท ส่วนปี 2565 คาดเบี้ยประกันภัยทั้งระบบอยู่ที่ 9.13 แสนล้าน ขยายตัว 3.17-5.69%

 

เตรียมขึ้นแท่นธุรกิจล้านล้านบาท

 

ตัวเลขสวยสดงดงามอย่างนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมสำนักงานคปภ. ยัง “แกว่งดาบขู่ฟันคอ” บริษัทประกันภัยแบบรายวัน ล่าสุดขู่อีกรอบว่า ปีหน้าจะเน้นจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์ประกันภัยอย่างเข้มงวด  โดยเฉพาะประกันวินาศภัย  เพื่อป้องกันเกมดั้มฟ์ราคาหาเบี้ยประกันมาโป๊ะเงินกองทุน

 

ปัดโธ่ ! ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ไม่ใช่ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว

 

ข้อเท็จจริงกว่าแต่ละบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยมาขายได้ เจ้าหน้าที่สำนักงานคปภ. กรองแล้วกรองอีก เพียงเท่านี้ยังไม่พอ ยังมีอำนาจยกเลิกห้ามขายในภายหลังได้อีก

 

จึงโปรดกรุณาอย่าเอางานรูทีนมาแกว่งดาบ เดี่ยวมันจะพลาดปาดปากตัวเอง!

 

ความเข้มแข็งความมั่นคงของบริษัท เป็นภารกิจหลักของสำนักงานคปภ.ที่จะคุมเข้มอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว  เป็น”งานกำกับ”ให้อยู่ในร่องในรอย มิใช่ ”งานตรวจจับ” แล้วสั่งปิด

 

ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำให้เหมาะกับกาล ที่กาลเวลาได้เปลี่ยนความคิดของผู้คน ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวข้ามความกังวลว่าบริษัทประกันภัยจะถูกปิดเพราะไม่มีเงินจ่าย กลายเป็นความกังวลว่าปิดแล้วสำนักงานคปภ.จะหาเงินที่ไหนมาชดเชยให้

 

อย่าลืม...ผู้คนรับรู้กันไปทั้งบางแล้วว่ากองทุนประกันวินาศภัยกระเป๋ากลวง เหลือเงินแค่ 5 พันล้าน เฉพาะกรณีเอกเชียประกันภัยและเดอะวัน ดีดลูกคิดกันดูแล้ว...ไม่พอจ่าย

 

ส่วนกรณีที่ว่าถ้าไม่พอจ่ายสามารถกู้เงินจากกองทุนประกันชีวิต ซึ่งมีอยู่มากโขมาใช้ได้  ถามเจ้าของเงินกงสีหรือยังว่า “ยินดีให้กู้หรือไม่”  จริงอยู่ด้วยอำนาจในกลไกการจัดการกองทุนประกันกันชีวิต  สำนักงานคปภ.สามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะกฏหมายเปิดช่องให้ทำได้อยู่แล้ว  แต่การยกอ้างในเรื่องนี้ยังฟังดูเลื่อนลอย ชาวบ้านยังกังขากู้ได้จริงหรือ แล้วถ้ากู้ไม่ได้จะหาเงินที่ไหนอีก

 

นั่นก็หมายความว่า สำนักงาน คปภ.ต้องเร่งสร้างความเข้าใจอย่างเป็นทางการ  เป็นหลักเป็นฐานและอย่างต่อเนื่อง มิใช่เกิดเหตุเพทภัยอะไรขึ้นมา แล้วค่อยออกจากหลังโรงมาร่ายรำดาบ ร้องสั่งการ เร่งรัดให้บริษัทประกันภัยต้องจ่ายตามสิทธิประโยชน์ที่ผู้เอาประกันภัยพึงได้  จากนั้นก็เก็บดาบไปอยู่หลังโรงต่อไป

 

ในวาระอันเป็นศุภมิ่งมงคลขึ้นปีใหม่ ปีเสือดุ นับเป็นกาลเวลาที่เหมาะแก่กาลในอันที่จะสำนักงานคปภ.ควรจะตั้งธงให้เป็น”ปีแห่งการสร้างองค์ความรู้ด้านประกันภัยแก่ประชาชน”

 

เพราะเพียงแค่จะย่างเข้าต้นปี 65 ประชาชนเริ่มที่จะเกิดความเข้าใจผิดในกระแส ซื้อประกันให้ชัวร์ต้องดู“อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ Capital Adequacy Ratio (CAR)” ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงมันต้องดูอะไรมากกว่านั้น เอาแค่กติกาชี้วัดบริษัทประกันภัยดีเด่น สุดยอดรางวัลเกียรติยศของสำนักงานคปภ.  CAR Ratio ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเกณฑ์ตัดสินและมีคะแนนไม่เยอะมาก

 

ปีที่ผ่านมาเล่นบท”เสือดุ”มาเยอะแล้ว  ปีใหม่นี้ลองพลิกบทบาทมาเป็น”ครูเสือ”ดูบ้างน่าจะดีกว่าน่ะโยม!

 

By Mr. DISCLOSURE 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com