บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ”), บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประสบความสำเร็จ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan, SLL) จำนวน 10,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“กรุงศรี”) ซึ่งเป็น SLL แรกสำหรับบริษัทเครื่องดื่มในประเทศไทย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของไทยเบฟต่อการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีกรุงศรี และMUFG เป็นที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน (Joint Sustainability Structuring Advisor)
ธุรกรรมดังกล่าวแสดงถึงความทุ่มเทของไทยเบฟในการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานและกลยุทธ์ทางการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ "สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน" ของไทยเบฟ โดย SLL เชื่อมโยงกับ 2 ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) โดยมุ่งเน้นไปที่ความมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมของไทยเบฟ ในการ 1) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลงร้อยละ50 ภายในปี 2573 (เทียบกับปี 2562) และ 2) ใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 50 ภายในปี 2573 (เทียบกับปี 2565) โดยการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของไทยเบฟลดลง
ไทยเบฟแต่งตั้ง Morningstar Sustainalytics เป็นผู้จัดทำรายงานความเห็นโดยผู้สอบทานภายนอกที่เป็นอิสระ (Second-Party Opinion Report) เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) รวมถึงกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืนของไทยเบฟสอดคล้องกับSustainability-Linked Loan Principles และมาตรฐานสากล
คุณต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยเบฟในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหารของภูมิภาคอาเซียนตระหนักดีว่านอกจากการสร้างธุรกิจอันแข็งแกร่งและการดำเนินงานที่เป็นเลิศแล้วยังต้องมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชน และเสริมสร้างธรรมาภิบาลอีกด้วย ด้านสิ่งแวดล้อม ไทยเบฟได้ให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากการดำเนินงานของกลุ่ม(Scope 1) และจากพลังงานที่ซื้อมา (Scope 2) ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583 ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) ของสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสอดคล้องเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี 2573 ของไทยเบฟ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของไทยเบฟต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ไทยเบฟรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกรุงศรีในก้าวที่สำคัญนี้”
คุณประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนไทยเบฟผ่านสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยเบฟในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน และ เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกรุงศรีที่พร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ภาคการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) โดยกรุงศรี และMUFG พร้อมประสานความร่วมมือกันเพื่อช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสร้าง ESG Pathways เพื่อใช้ประกอบกับแผนธุรกิจ ซึ่งนับเป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัว และเติบโตในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”
มร. คอลิน เฉิน กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่าย ESG Finance APAC ธนาคารเอ็มยูเอฟจี กล่าวว่า “MUFG รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกรุงศรีในการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนครั้งแรกของไทยเบฟ เราติดตามกลยุทธ์ของไทยเบฟในการมุ่งสู่ Net Zero และการบูรณาการการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเข้ากับกิจกรรมการจัดหาเงินของไทยเบฟ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า MUFG จะได้เป็นพันธมิตรกับกรุงศรีและไทยเบฟต่อไป”
มร. เกร็ก ธง ผู้อำนวยการ Sustainalytics Corporate Solutions, Morningstar Sustainalytics กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนไทยเบฟ ผ่านการออก Second Party Opinion ให้กับกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Finance Framework) โดย Morningstar Sustainalytics ได้ข้อสรุปว่ากรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืนของไทยเบฟสอดคล้องกับองค์ประกอบหลัก 5 ประการ ของ Sustainability-Linked Loan Principles รวมถึง KPIs ที่มีความหมายและเกี่ยวข้องกับบริบทของความยั่งยืนและกลยุทธ์ทางธุรกิจของไทยเบฟ และ SPTs ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Morningstar Sustainalytics ยังพิจารณาหน้าที่การรายงานและการตรวจสอบการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล”