Public Relation

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล-บิ๊กบล็อก เปิดตัวโรงงานร่วมทุนผลิตแผ่นผนังมวลเบาด้วยเทคฯใหม่ รุกตลาดอินเดีย
20 มิ.ย. 2567

บริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล (SCG International) จำกัด และบริษัทบิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น (BigBloc Construction) จำกัด ร่วมลงทุนเปิดโรงงานแผ่นผนังมวลเบา (Autoclaved Aerated Concrete Wall) ภายใต้ชื่อบริษัทสยาม ซีเมนต์ บิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น เทคโนโลยี ไพรเวท ลิมิเต็ด (Siam Cement BigBloc Construction Technologies Pvt Ltd)โดยเป็นการเปิดตัวโซลูชันผนังด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยแห่งแรกในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ภายใต้แบรนด์  'ZMARTBUILD WALL by NXTBLOC' ซึ่งการร่วมลงทุนครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 650ล้านรูปี (285 ล้านบาท) และมีกำลังการผลิตมากถึง 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยในงานเปิดตัวได้รับเกียรติจากนางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณะรัฐอินเดีย เป็นประธาน และนายบัลวันต์ซินห์ ราชปุต รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม MSME รัฐบาลคุชราต ได้ส่งสาส์นมาร่วมแสดงความยินดี รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล และบิ๊กบล็อก คอนสตรัคชัน เข้าร่วมงาน

 

ในปี 2564-2565 บิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น ได้ร่วมลงทุนทางธุรกิจกับเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตแผ่นผนังมวลเบา ในเขตเคดา ใกล้เมืองอาห์เมดาบัด (รัฐคุชราต) โดยบิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น ถือหุ้นร้อยละ 52 ขณะที่  เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้นร้อยละ 48 นับเป็นการลงทุนครั้งแรกในประเทศอินเดียของบริษัทในเครือเอสซีจี 

 

นายนาเรช ซาบู กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น จำกัด กล่าวว่า “การร่วมทุนครั้งนี้เป็นมากกว่าความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและวัฒนธรรม โรงงานนี้ก่อตั้งและเริ่มกระบวนการผลิตในเดือนกันยายน ปี 2566 นำเสนอโซลูชันวัสดุก่อสร้างเพื่อเสริมขีดความสามารถของทั้ง 2บริษัท พร้อมสร้างการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมแผ่นผนังมวลเบา รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้างของอินเดียในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวมีศักยภาพที่จะพัฒนากำลังการผลิตเป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีในระยะที่ 2”

 

แผ่นผนังมวลเบามีคุณสมบัติเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา กันเสียง ทนไฟ ให้คุณภาพการสร้างที่เหนือกว่า และประหยัดต้นทุนก่อสร้างมากกว่าเมื่อเทียบกับการก่ออิฐแบบวิธีเดิม อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากลดการใช้น้ำและลดฝุ่นจากการก่ออิฐฉาบปูน สำหรับแผ่นผนังมวลเบาที่ผลิตโดยโรงงานร่วมทุนนี้มีขนาดใหญ่หลากหลายขนาด กว้าง 8-12 ฟุต หนา 3-8 นิ้ว ตอบโจทย์ตลาดอินเดีย โรงงานแห่งนี้จะสร้างโอกาสในการจ้างงานได้ 250 ตำแหน่ง และเมื่อเต็มกำลังการผลิตของโรงงานคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 1,000 ล้านรูปีต่อปี (440 ล้านบาท) บริษัทร่วมทุนแห่งนี้ยังมีเป้าหมายแบ่งปันความรู้ด้านเทคโนโลยีและเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการเติบโต สร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และนำวัสดุก่อสร้างยุคใหม่สู่ตลาดอินเดีย

 

นายอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้รวมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีวัสดุก่อสร้างที่มีมากกว่าศตวรรษของเอสซีจี และความเข้าใจความต้องการในตลาดท้องถิ่นของบิ๊กบล็อก โดยนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมแผ่นผนังมวลเบาจาก 'ZMARTBUILD WALL by NXTBLOC' ที่จะสร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมก่อสร้างของอินเดีย”

 

บริษัทเอสซีจี อิเนตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SCG International) เป็นผู้นำด้านซัพพลายเชนระหว่างประเทศ โดยเริ่มดำเนินการในประเทศอินเดียตั้งแต่ปี 2561 ผ่านชื่อ‘เอสซีจี อิเนตอร์เนชั่นแนล อินเดีย’ เน้นธุรกิจวัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ และการจัดหาเซรามิกและวัสดุอุตสาหกรรมอื่น ๆ โครงการนี้เป็นการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (FDI)ครั้งแรกในประเทศอินเดีย หลังจากที่ใช้เวลาในการศึกษาตลาดอินเดีย เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ตัดสินใจร่วมมือกับบริษัท บิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น จำกัด และเลือกรัฐคุชราตเป็นสถานที่แรกสำหรับการลงทุน เนื่องจากมีวัฒนธรรมการทำงานและสภาพแวดล้อม รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เอื้อต่อการลงทุนในอนาคตของเอสซีจี

 

บริษัทบิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น จำกัด (BigBloc Construction) ก่อตั้งเมื่อปี 2558 เป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่แห่งวงการอิฐมวลเบา (AAC Block) ด้วยกำลังการผลิต 1.075 ล้านตารางเมตรต่อปี โดยโรงงานตั้งอยู่ที่อุมารกอน (วาปิ) และกะพัดวานจ์ (อาห์เมดาบัด) ในรัฐคุชราต และวาดา (ปาลการ์) ในรัฐมหาราษฎระ บริษัทนี้เป็นบริษัทหนึ่งในวงการ AAC ที่สามารถสร้างเครดิตคาร์บอนได้  ทั้งนี้ บิ๊กบล็อก คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ผลิตอิฐมวลเบาชั้นนำของอินเดีย จำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ 'NXTBLOC' โดยดำเนินโครงการมากกว่า 2,000 โครงการจนถึงปัจจุบัน และยังมีโครงการอื่น ๆ อีกมากกว่า 1,500 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ มีบริษัทที่เป็นลูกค้า ได้แก่ โลธา (Lodha),อดานี   เรียลติ (Adani Realty), อินเดียบูลส์ เรียล เอสเตส (IndiaBulls Real Estate), เพรสติช(Prestige), พิรามาล (Piramal), โอเบรอย เรียลติ (Oberoi Realty), เชิร์ก กรุ๊ป (Shirke Group), ชาปูร์จี ปัลลอนจิ กรุ๊ป (Shapoorji Pallonji Group), ราเฮจา (Raheja), พีเอสพี โปรเจคส์ (PSP Projects), แอล แอนด์ ที แอนด์ ซันเทค (L&T, and Sunteck), อินฟราสตรัคเจอร์ เซเธีย ไพรเวทลิมิเต็ด (Infrastructure Sethia Pvt Ltd), ดอสติ กรุ๊ป (Dosti Group), ปัววันการา ลิมิเต็ด (Purvankara Ltd) รวมถึงบริษัทอื่น ๆ

 

สำหรับการดำเนินการในปี2566-2567 บริษัทรายงานรายได้จากกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดที่ 2,432 ล้านรูปี (1,067 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.55 ต่อปี  EBITDA ที่ 561.5 ล้านรูปี (246 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.29 ต่อปี และ PAT ที่ 306.9 ล้านรูปี (134 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.83 ต่อปี

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com