Public Relation

COCOCO แย้มคำสั่งซื้อปีหน้าแน่น - บริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนควบคู่
19 ก.ย. 2567

COCOCO แย้มคำสั่งซื้อปีหน้าแน่น - บริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนควบคู่ UOBKH คงคำแนะนำ ซื้อ ให้เป้า 16.00 บาท

 

มาติดตามธุรกิจของ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” ที่เรียกได้ว่า.....เข้าสู่ช่วงเร่งของการเติบโต คำสั่งซื้อปีหน้าแน่นๆ และได้บริหารจัดการสต็อกสินค้าไว้ ตามปริมาณที่ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างเพียงพอ ด้านต้นทุนที่บริหารจัดการได้ดี สอดคล้องกับแนวโน้มปี 2567 มีอัตราเติบโตที่สูง จากเครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์(PET) ที่เข้าช่วยให้เพิ่มอัตรากำลังผลิต (Utilization rate) น้ำมะพร้าว 25-30% พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้มีการบริหารความเสี่ยงของค่าเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และถือว่า ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยบริษัทฯ มีการป้องกันความเสี่ยง ทำ Forward Contract กับการบัญชีป้องกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อล่วงหน้าจากยอดขายจากเอเชีย ตะวันออกกลาง และยอดขายจากแอฟริกามีการเติบโตสูงขึ้น 

 

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน UOBKH ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น COCOCO ปรับตัวลดลง คาดหลักๆ น่าจะมาจากความกังวลค่าเงินบาทแข็ง และประเด็นการ sourcing มะพร้าว ที่มีพ่อค้าจีนมาซื้อมะพร้าวโดยตรงจากไทยมากขึ้น (เดิมซื้อที่เวียดนามเป็นหลัก)

 

ภาพรวมจากการ channel check แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1) เงินบาทแข็ง หลักๆในเชิง operation เป็น natural hedge เพราะส่งออก non-China ด้วย USD และนำเข้ามะพร้าวจากใน ASEAN ด้วย USD, ในด้านการตั้งราคาขายจะเป็นปีต่อปี โดยบริษัทยังไม่มีนโยบายการปรับราคาลง (ในส่วนของการ quote ราคาใหม่ สะท้อนบาทที่แข็งขึ้น จะเริ่ม 1 ตค.24)  เพราะมองตลาดปลายทางยังเติบโตได้อยู่ ทำให้มองว่าจะไม่กระทบต่อ Volume (ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาคำสั่งซื้อ Volume ปี 2025 ในส่วนของน้ำมะพร้าว) และ 2) ประเด็นการ sourcing มะพร้าว บริษัทยังคงมองการ secure ได้ จาก relationship ที่ดีกับคู่ค้า

 

สำหรับปัจจุบันงวด 3Q24 ยอดขายคาดยังเติบโตได้ดี qoq และเป็น new high ได้ ในส่วนของกำไร 3Q24 คาดที่ราว 250-260 ลบ. เพิ่มขึ้นราว 15% qoq และ 60% yoy

 

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท จากแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตได้ดี และแผนขยายธุรกิจในปี 2025 ทั้งนี้ คาดระยะสั้นราคาหุ้นอาจถูกกระทบจาก sentiment ลบค่าเงินบาทที่กดดัน อาจเน้นจังหวะสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com