บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี โชว์ครึ่งปีแรก 2567 มียอดขายถ่านหิน 2.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20% หนุนรายได้รวมแตะ 6,868 ล้านบาท ครึ่งปีหลังส่งสัญญาณบวก ส่อแววกำไรกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากการเร่งขับเคลื่อน 4 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV 

นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 6,868 ล้านบาท ลดลง 5.8% (YoY) มีผลขาดทุนสุทธิ 264 ล้านบาท จากภาวะการแข่งขัน โดยมีปริมาณการขายถ่านหินรวม 2.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 19.8% (YoY) จากปริมาณการขายถ่านหิน ในตลาดต่างประเทศ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อยู่ที่ 331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% (YoY) โดยคาดว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฤดูการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ปริมาณสินค้าเกษตรมีการขนส่งเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 3,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 3,280.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9% (YoY) โดยมีปริมาณการขายถ่านหินรวมในไตรมาส 2/2567 ที่ 1.12 ล้านตัน ขณะที่รายได้ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% (YoY) ในไตรมาสนี้มี ผลขาดทุนที่ 150.6 ล้านบาท จากภาวะการแข่งขันของตลาดถ่านหิน

โดยบริษัทฯ มองว่าทิศทางของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ด้านราคาถ่านหิน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย“เอจีอี เวนเจอร์ หรือ AGEVT” ได้จัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เพื่อ ดำเนินธุรกิจให้บริการปล่อยเช่ารถ อีวี ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ โดยจะเริ่มดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/67 และได้จับมือกับ ออโต้ แกลเลอรี่ กรุ๊ป จัดตั้งบริษัท เอจีอี ออโต้ แกลลอรี่ จำกัด โดย AGE ถือหุ้น 60% และอีก 40% ถือหุ้นโดย ออโต้ แกลเลอรี่ กรุ๊ป เพื่อรองรับธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV เนื่องจากมองว่าตลาดรถ EV ยังมีดีมานด์การเติบโตสูงขึ้นในอนาคต โดยในครึ่งปีหลัง 2567 จะเปิดให้บริการ 1 โชว์รูมซึ่งเป็น แบรนด์ OMODA & JAECOO ส่วนในปี 2568 จะทยอยเปิดเพิ่ม 2 โชว์รูม

 ส่วนธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิง จากขยะ (RDF) ภายใต้บริษัทย่อย Green RDF โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 50,000 ตัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม

“ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าผลการดำเนินงานของ AGE จะสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์จากการปรับกลยุทธ์ด้านราคาถ่านหิน ในขณะที่รายได้ธุรกิจโลจิสติกส์จะปรับตัวดีขึ้นจากฤดูการเก็บเกี่ยวของสินค้าเกษตรในช่วงครึ่งปีหลัง”