กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าติดอาวุธผู้ประกอบการไทยให้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดยุคดิจิทัล รับกระแสอีคอมเมิร์ซโตแรง จัดกิจกรรมปั้นนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ Smart Trader Onlineเฟ้นหา 3 สุดยอดนักขายออนไลน์ เพื่อเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ พร้อมประกาศผลผู้ชนะและจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 11 กันยายน 2567 ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
นายสถาพร ร่วมนาพะยา รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในพิธีมอบรางวัล “สุดยอดนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ” เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุม 1 ศตวรรษ ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ว่า ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จาก 6.34 แสนล้านบาท ในปี 2566 เป็น 6.94 แสนล้านบาท ในปี 2567 เติบโตเฉลี่ยปีละ 6% และคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 7.5 แสนล้านบาทในปี 2568 ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้เป็นได้ทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ปรับตัวได้เร็ว รู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีจะมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก เพิ่มยอดขายได้ไว และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ง่ายขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการที่ปรับตัวตามไม่ทัน อาจเสียโอกาสและต้องเผชิญกับความยากลำบากในการแข่งขัน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเล็งเห็นถึงความท้าทายที่ผู้ประกอบการไทยได้รับโดยเฉพาะจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจึงได้ดำเนินโครงการมากมายที่ช่วยเสริมทักษะและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลง และพร้อมรองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ หนึ่งในนั้นคือ กิจกรรม “สร้างนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ Smart Trader Online” ซึ่งเป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่มุ่งพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้มีความรู้ด้านการค้าออนไลน์และก้าวสู่การเป็นนักขายออนไลน์มืออาชีพ โดยได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ซึ่งในปีนี้เน้นไปที่การพัฒนาทักษะการใช้เครื่องมือการตลาดยุคใหม่อย่าง เช่น การตลาดแบบพันธมิตร หรือ Affiliate Marketing ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ เพราะเป็นการตลาดที่ได้ประโยชน์ทั้งต่อผู้ขาย ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนสูง และยังช่วยให้คนทั่วไปที่ไม่มีทุน ไม่มีสินค้าแต่อยากหารายได้จากการขายออนไลน์สามารถนำสินค้าจากผู้ประกอบการมาขายและสร้างรายได้ที่มั่นคงได้
สำหรับกิจกรรม สร้างนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ Smart Trader Online ใครๆ ก็ขายได้ ประจำปีนี้ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 โดยมีการจัดอบรมทั้งหมด 3 ครั้ง มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1,000 ราย ทั้งประชาชนทั่วไป เจ้าของร้านค้า ผู้ผลิตสินค้า และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งหลังจากอบรมครบทั้ง 3 รอบ จะคัดเลือกผู้เข้าอบรมเหลือเพียง 30 ราย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจและคัดเลือกสินค้าชุมชนที่มีศักยภาพมาไลฟ์ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์จริง พร้อมเฟ้นหา 3 สุดยอดนักขายออนไลน์มืออาชีพที่มีทักษะ การขายที่โดดเด่น สร้างสรรค์ มีการนำเสนอที่ดึงดูดใจ น่าติดตาม มียอดผู้ชมไลฟ์และสร้างยอดขายได้สูงสุด ซึ่งขณะนี้กิจกรรมได้สิ้นสุดลงแล้ว และมีการประกาศผลผู้ชนะเลิศ และมอบรางวัลในวันนี้
ด้านนางสาวบุริญ ใจสิงห์ หรือ โฟมม่อน ผู้ชนะเลิศการประกวด “สุดยอดนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ” จากกิจกรรมสร้างนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ Smart Trader Online ใครๆ ก็ขายได้กล่าวว่า เหตุผลที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้เพราะมีความรักในงานขายและมีความสามารถด้านการสื่อสาร เพราะมีอาชีพเป็นพิธีกรและวิทยากร พอเห็นการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ และคนรอบข้างที่ทำธุรกิจออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok ก็เกิดความสนใจ อยากลองใช้ทักษะความสามารถของตนเองสร้างอาชีพออนไลน์เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้และตั้งเป้าหมายว่า “อยากเป็นนักขายออนไลน์ที่สามารถขายได้ทุกอย่าง” จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้เพราะต้องการเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องการสร้างคอนเทนต์และการขายออนไลน์ ซึ่งเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมฯ ก็ทำให้ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ มากมายที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น การสร้าง Storytelling ซึ่งช่วยให้สามารถทำคลิปที่สร้างยอดขายได้และค้นพบแนวทางที่ใช่สำหรับตัวเอง
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งเข้าใจว่าโครงการนี้กําลังเฟ้นหานักขายที่จะไปช่วยผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย ซึ่งผู้ประกอบหลายรายอาจมีสินค้าที่ดี แต่ยังไม่มีทุนไปจ้างอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ค่าตัวแพงๆ มาช่วยโปรโมตสินค้า จึงคิดว่าถ้าเราสามารถใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการเป็นนักขายมืออาชีพของเราไปช่วยสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการได้บ้างก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
นอกจากนี้ โฟมม่อน ยังได้แนะเคล็ดลับสำหรับนักขายออนไลน์มือใหม่ว่า “ควรทำสิ่งที่เรารู้สึกสบายใจเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข และควรเริ่มต้นจากสินค้าที่เราชื่นชอบและเชื่อมั่นในคุณภาพ เพราะหากเราอินกับสินค้านั้นจริงๆ เราจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกนั้นไปยังลูกค้าได้อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติ เมื่อเราสื่อสารด้วยความจริงใจ ลูกค้าจะรับรู้ถึงความจริงใจของเราได้ และที่สำคัญอยากให้นักขายทุกคนควรมีหัวใจของการเป็น “ผู้ให้” ด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่จะขายของอย่างเดียว แต่ต้องขายสินค้าดี มีคุณภาพ ที่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ ได้รับความคุ้มค่าจากสินค้าจริงๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเกิดความเชื่อถือ ไว้วางใจ และกลับมาซื้อสินค้าของเราอย่างต่อเนื่อง”
นายสถาพร กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากกิจกรรมสร้างนักขายออนไลน์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำมากมาย อย่างเช่น TiktokShop, Shopee , Lazada, และ NocNoc จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเสริมสร้างความรู้และพัฒนาทักษะ การใช้เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ การบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อเอื้อให้ผู้ประกอบการใช้ช่องทางออนไลน์สร้างยอดขายและสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว