ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 50 ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย สนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Enterprises หรือ SE) ผ่าน K+ market บน K PLUS โดยมี SE นำร่อง 7 ราย ภายใต้เครือข่าย SET Social Impact ได้แก่ บริษัท ลิฟวิ่ง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (Living Social Enterprise) บริษัท ออทิสติกไทย วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (Artstory) บริษัท เทิร์นทูอาร์ต จำกัด (Witshulada) บริษัท เดอ คัวร์ จำกัด (เดอ คัวร์) บริษัท ดี มี สุข (ไม่) จำกัด (ดีมีสุข) บริษัท ทีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด (Yorice)และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฮซ ฟรี (Haze Free) เข้าร่วมเพื่อเพิ่มประสบการณ์และโอกาสให้ลูกค้า KBANK ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคม
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและบริหารกิจกรรมเพื่อสังคมตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการเพื่อสังคม (SE) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญ หนึ่งในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสังคมลดความเหลื่อมล้ำของประเทศ จึงได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อสังคม โดยตั้งแต่ปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาและส่งเสริมระบบนิเวศของผู้ประกอบการเพื่อสังคมหลายด้าน เช่น การให้ความรู้พัฒนาทักษะด้านการประกอบธุรกิจ การสนับสนุนการจับคู่ทางธุรกิจด้วยการเชื่อมการทำงานกับองค์กรต่าง ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการเพื่อสังคมยังขาดการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายและโปรโมทสินค้าบนแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ให้เป็นที่รู้จัก จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯและธนาคารกสิกรไทย นำร่อง 7 ผู้ประกอบการเพื่อสังคมภายใต้เครือข่าย SET Social Impact ให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่าน K+ market บน K PLUS อันจะช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง เพิ่มการรับรู้และโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการเพื่อสังคมได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ขณะเดียวกัน ลูกค้าธนาคารเองก็จะได้มีส่วนร่วมสร้างผลลัพธ์ทางสังคมผ่านการซื้อสินค้าของผู้ประกอบการเพื่อสังคม
นางสาวศรินยา ปิยะวงศ์สมบูรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะฟันเฟืองขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและธุรกิจ ยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสังคมในเครือข่าย SET Social Impact ด้วยการใช้ศักยภาพแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร เพื่อเพิ่มยอดขายและพื้นที่การขายให้กับผู้ประกอบการร้านค้าบน K+ market ใน K PLUS ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อให้สามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้อย่างสะดวก โดยธนาคารได้พัฒนาK+ market บน K PLUS อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นศูนย์รวมสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพและถูกลิขสิทธิ์จากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย เจ้าของแบรนด์ ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่สนใจขยายช่องทางการขายออนไลน์ สามารถใช้ศักยภาพของ K+ market เป็นโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ได้ ในขณะเดียวกัน ธนาคารสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์ของลูกค้าที่ต้องการได้สินค้าที่มีคุณภาพและได้รับความคุ้มค่าจากการใช้จ่ายซึ่งธนาคารได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายบน K+market อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งลูกค้าสามารถเลือกจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการได้ทั้งเงินสด หรือ ใช้คะแนน K Point แลกซื้อ
สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทยสามารถซื้อสินค้าผ่าน K Point หรือ ชำระเงินสด ที่ K+ market บน K PLUS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยพิมพ์ในช่องคำค้นหา “SET Social Impact” พบกับสินค้าหลากหลายประเภทที่มุ่งสร้างผลลัพธ์ทางสังคมไม่ว่าจะเป็น สินค้าส่งเสริมสร้างงานชุมชน สินค้าสร้างรายได้ให้กลุ่มเปราะบาง สินค้าเกษตรอินทรีย์ และสินค้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จากผู้ประกอบการเพื่อสังคมทั้ง 7 ราย ที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย “Living Social Enterprise” “Artstory” “Witshulada” “เดอ คัวร์” “ดีมีสุข” “Yorice” และ “Haze Free”