บ้านปู เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป ( PO) จำนวน 5 รุ่น ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่ง โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการลงทุนของบริษัทเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายใต้กลยุทธ์“Greener & Smarter”
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไปมีจำนวน 5 รุ่น คือ รุ่นอายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [2.90 – 3.10]% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [3.50 – 3.60]% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [3.70 – 3.80]% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [4.00 – 4.10]% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [4.15 – 4.25]% ต่อปี โดยบริษัทฯ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท
ทั้งนี้คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ในเดือนพฤษภาคม 2567 ผ่าน 6 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผ่านช่องทางสาขาระบบออนไลน์ และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ”
“บ้านปูกำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 โดยมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและต่อยอดการส่งมอบอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ Greener & Smarter บริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจพลังงานเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คน จึงมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และเชื่อว่าหุ้นกู้บ้านปูเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกิจการที่มีความมั่นคงและต้องการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้” นายสินนท์กล่าวเสริม
แม้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกประสบกับความผันผวนของตลาดพลังงาน อย่างไรก็ดี บ้านปูก็ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องจากความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม พร้อมคงความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับตลาดพลังงานที่มีความเปลี่ยนแปลงได้อย่างคล่องตัว ส่งผลให้บ้านปูสามารถรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในการสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 160 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,343 ล้านบาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยปี 2566 ที่ USD 1: THB 34.8022)