บสย. จัดกิจกรรมประชุมพนักงานข้ามระดับ “Skip Level with SmartGen” กับพนักงานกลุ่ม KM&IM Team หรือ ทีมงานการจัดการความรู้และนวัตกรรม และกลุ่มคนรุ่นใหม่ NewGen จากทุกฝ่ายงานของ บสย. ร่วมรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิด ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้ บสย. อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งให้เกิดการสื่อสาร รับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างผู้บริหารระดับสูง และพนักงาน เพื่อให้พนักงานเกิดความเข้าใจถึงเป้าหมาย และทิศทางขององค์กร  พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานได้ตั้งคำถาม สร้างให้เกิดการปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อตอบรับทิศทางของอุตสาหกรรมทางการเงิน พฤติกรรมลูกค้า และสภาพเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนแปลงไป ก้าวสู่วิสัยทัศน์ “TCG Fast & First” รวดเร็ว รอบคอบ เป็นที่หนึ่งในใจ SMEs  

ปัจจุบัน บสย. มีความหลากหลายของบุคลากรตาม Generation ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ทำให้เกิดการผนึกกำลังกันของพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ และความเชี่ยวชาญจากรุ่นพี่ผู้มากประสบการณ์ นำมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อน บสย. ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลัง  

ทั้งนี้ ท่ามกลางความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ และพันธกิจในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. การคิดค้นนวัตกรรม ด้วยการผสานจุดแข็งของคนต่างเจเนอเรชั่นในองค์กร จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนองค์กรก้าวทันทุกความเปลี่ยนแปลง โดยชู 4 โจทย์หลักที่ บสย. ต้อง Disrupt เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 

1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม และช่องทางการให้บริการ ที่หลากหลายและมีประสิทธภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ยกระดับสำนักงานเขตทั่วประเทศ (Branch Reformat) สู่การเป็นศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs 

2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อในรูปแบบ RBP (Risk Based Pricing Product) คิดค่าธรรมเนียมตามระดับความเสี่ยงของ SMEs ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบการรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันลดลงตามระดับความเสี่ยง โดยนำเครื่องมือ Credit Scoring มาใช้ในการพิจารณาการค้ำประกันสินเชื่อ 

3. การใช้ประโยชน์จาก Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้านสินเชื่อ พัฒนาโอกาสในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs มากยิ่งขึ้น 

4. Digital Disruption ด้วยการใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่น AI Tools พัฒนาระบบการทำงาน และบริการใหม่ ๆ

นายสิทธิกร กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ในวันนี้คือ โลกเปลี่ยนเร็ว โมเดลแบบเดิมไม่ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในอนาคต เห็นได้จากจุดเปลี่ยนของโลกการเงินในยุคดิจิทัล ที่ทำให้องค์กรต้องก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยใช้ Digital เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกับการปลุกพลังภายในองค์กร โดยทีมพนักงาน “คนรุ่นใหม่” จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น  

“ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบด้าน เป็นแรงผลักดันให้ บสย. ต้องปรับตัวและเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง เพื่อสามารถเป็นองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า ตามพันธกิจที่มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และองค์ความรู้ทั้งระบบ” นายสิทธิกร กล่าวทิ้งท้าย