ทาคูนิ กรุ๊ป ผนึก 2 พันธมิตร “เทลจี-สตาเลียน” แต่งตั้ง “TTS Connect” บริษัทร่วมทุน TAKUNI เป็นผู้ถือสิทธิ์การบริหารจัดการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบรนด์”Tailg”ในประเทศไทยรายเดียว ประกาศปูพรม รุกตลาดทุกกลุ่ม นำร่องความร่วมมือ” eatsHub “แพลตฟอร์ม Online Restaurant Food Ordering System อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าหมายปี 67 มีส่วนแบ่งตลาดรถมอเตอร์ไซด์ EV ติด Top  5 ดันยอดขาย 10,000-12,000 คัน

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการ บริษัททาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ บริษัท Tailg จำกัด หรือ เทลจีและบริษัทสตาเลียน จำกัด หรือ Stallions จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท TTS Connect จำกัด อย่างเป็นทางการ  เพื่อร่วมกันผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพ  ภายใต้แบรนด์ “ Tailg” (เทลจี) ในตลาดประเทศไทย และยังได้ลงนามแต่งตั้งให้บริษัท TTS Connect จำกัดให้ เป็นผู้ถือสิทธิ์ในการบริหารจัดการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ Tailg ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

นายชาติชายกล่าวอีกว่า ในช่วงแรกการดำเนินงาน บริษัท TTS Connect จะรุกตลาดลูกค้าองค์กรที่ทางกลุ่มมีพันธมิตรมากมาย  โดยล่าสุดได้มีการลงนามความร่วมมือกับ eatsHub ซึ่ง เป็นแพลตฟอร์ม Online Restaurant Food Ordering System อย่างเต็มรูปแบบ  และเริ่มให้บริการแล้วบริเวณรอบนอก ของกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมกันนี้ยังมีการ Road Show ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อสร้าง brand awareness เพื่อรองรับการขยายตลาด B to C คือขายให้กับลูกค้าทั่วไป โดยนอกเหนือจากการจัดจำหน่ายเองแล้วบริษัทยังมีความร่วมมือกับเครือข่ายและพันธมิตรที่เป็นร้านขายมอเตอร์ไซค์และโชว์รูมทั่วประเทศ รวมแผนเปิดรับสมัครดีลเลอร์ หรือตัวแทนจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทั่วประเทศอีกด้วย

“บริษัทTTS Connect ตั้งเป้าหมายปี 2567 ไว้ว่า จะมีมาร์เก็ตแชร์ติด  5 อันดับแรกของตลาดรถมอเตอร์ไซค์อีวีในประเทศไทย รวมถึงรุกขยายไปยังพันธมิตรของเราที่ต่างประเทศด้วย ซึ่งจะมียอดขายรถมอเตอร์ไซค์อีวีเบื้องต้นไว้ที่จำนวน 10,000-12,000 คัน และเรามีแผนจะสร้าง flagship โดยจะยก Tailg มาไว้ที่โชว์รูม  ถนนมีนบุรีและบริเวณหน้าโรงงาน Stallions ภายในต้นปีหน้า   และเรามั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์อีวีจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ประชาชนหันมาตื่นตัวเรื่องรักษ์โลก หรือพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรงมากในขณะนี้ และตลาดในประเทศไทยก็ถือเป็นตลาดใหญ่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์  ที่สำคัญรถ EV ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงาน และรัฐบาลยังสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถมอเตอร์ไซค์อีวีโดยช่วยซัพพอร์ตภาษีให้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้าได้ง่ายขึ้นในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย” นายชาติชายกล่าว

ด้านนางอารีรัตน์ ศรีประทาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสตาเลียน จำกัด  กล่าวว่า สตาเลียน จะดูแลในส่วนของการประกอบ ผลิต และคัดสรรเลือกใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ยกระดับคุณภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานโรงงาน ดูแลผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งการเตรียมความพร้อมในส่วนการฝึกอบรมช่างบริการ  การให้ความรู้ในการใช้งานและบำรุงรักษา ตลอดจนการดูแลอะไหล่และบริการหลังการขาย 

“Stallions และ Tailg ได้ร่วมงานกันมาก่อนกว่า 7 ปี โดยศึกษาวิจัยตลาดไทยผ่านโครงการต่างๆในไทยหลายๆโครงการที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ที่ทาง Tailg ได้เข้าร่วมเป็นภาคี ส่งเสริมสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 2-3 ล้อ ภายใต้Global Electric Mobility Program โดยมีการนำร่องการใช้งาน6ประเทศ จาก2ภูมิภาค ได้แก่ ประเทศ  ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เอธิโอเปีย เคนยา และยูกันดา โดยในประเทศไทยเราได้นำร่องใช้งานผ่านระบบขนส่งมวลชน มอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะเร่งผลักดันการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Low Carbon Mobility มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย สังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับสร้างสังคมความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน” นางอารีรัตน์ กล่าว

สำหรับการจัดตั้งบริษัท TTS connect ไม่เพียงเป็นความเชี่ยวชาญและความพร้อมที่มีจุดแข็งที่ผนึกกำลัง 3 ฝ่ายเท่านั้น TTS  มีความมุ่งมั่นที่จะสามารถConnect กับอีกหลายๆภาคส่วน เพื่อเชื่อมโยงให้เกิด Win Win Solutions ผู้แก่ทุกๆฝ่าย ที่มีเป้าหมายร่วมกัน  ดังนั้น TTS Connect จึงเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เป็นศูนย์รวมของการ Connect เชื่อมโยงให้เกิด มูลค่าและคุณค่าต่อทุกคน

ด้านMr.George Lee  รองประธาน  บริษัท Tailg group จำกัด กล่าวว่า Tailg คือแบรนด์ผู้นำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Top 3 ของจีน ที่มียอดผลิตขายในจีนปีละ12 ล้านคัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปี นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่ทาง Tailg ได้ตัดสินใจร่วมทุนจัดตั้งบริษัท TTS connect ในประเทศไทย ผนึกกำลังความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย เร่งขยายตลาดความเป็นผู้นำสู่ตลาดไทย  

“Tailg แม้จะคร่ำหวอดในตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 20 ปี แต่ตลาดแต่ละประเทศก็ย่อมมีความแตกต่างกัน  ดังนั้นเราจึงต้องมีการวิจัยและเก็บข้อมูลและติดตามการใช้งาน เพื่อจะผลิตสินค้าให้เหมาะกับตลาดนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงประหยัดสุด และต้องตรงกับความต้องการลูกค้าผู้ใช้ให้มากที่สุด ซึ่งทางเทลจี เรามีทีม R&D และมี เทคโนโลยี  มีแพลตฟอร์มการบริหารจัดการรวมถึง เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆมาตลอด ดังนั้น เรามั่นใจว่า  Tailg Thailand by TTS จะสามารถเป็นผู้นำในตลาดไทยได้อย่างแน่นอน ”Mr.George Lee กล่าว