กลุ่มดุสิตธานี ประกาศลงนามในข้อตกลงกับ เพิร์ล อะทอลล์ (Pearl Atoll Pvt Ltd) เพื่อบริหารจัดการ ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์ (dusitD2 Feydhoo Maldives) ด้วยการนำเสนอห้องพักสไตล์รีสอร์จำนวน 125 ห้อง ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัว และอยู่ไม่ไกลจากมาเล่ เมืองหลวงของมัลดีฟส์
มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์ จะเป็นรีสอร์ทแห่งที่ 2 ของกลุ่มดุสิตธานีในประเทศมัลดีฟส์ โดยโรงแรมแห่งแรก คือ ดุสิตธานี มัลดีฟส์ ที่เปิดให้บริการบนเกาะมุดดูห์ ในบาอะทอลล์ ซึ่งเป็นเขตสงวนชีวมณฑลแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่ได้รับการประกาศโดยองค์กรยูเนสโก โดยขณะนี้ ‘ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์’ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ. 2567 ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้แบรนด์ ‘ดุสิตดีทู’ และเป็นรีสอร์ทแห่งแรกของกลุ่มดุสิตธานีที่นำเสนอประสบการณ์แบบจ่ายครั้งเดียวจบ ได้ครบทั้งห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม (All-Inclusive)
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายธุรกิจรีสอร์ทของเราในประเทศมัลดีฟส์ กับ ‘ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์’ ซึ่งเป็นแนวคิดของการพักผ่อนแบบจ่ายครั้งเดียวจบ ได้ครบทุกประสบการณ์ เพราะประเทศมัลดีฟส์ถือเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์สำหรับเรา และการเพิ่มโรงแรมแห่งใหม่นี้เข้ามาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เครือดุสิต จะช่วยสร้างภาพจำที่โดดเด่นในตลาดการพักผ่อนแบบลักซ์ชูรี โดยนำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างสำหรับครอบครัว และคู่รักที่เลือกประเทศมัลดีฟส์ไว้เพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวาย มาพร้อมกับความคุ้มค่า และประสบการณ์อันน่าจดจำ เรามุ่งมั่นที่จะตอบสนองทุกความต้องการด้วยงานบริการที่เป็นเลิศ และเราเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนใน ‘ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์’ กำลังรอคอยที่จะต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่านด้วยความอบอุ่น” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากความอลังการของวิลล่ากลางน้ำขนาดกว้างขวาง และห้องสวีทสำหรับครอบครัวขนาด 77 - 319 ตร. ม. แล้ว ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์ ยังเน้นย้ำรูปแบบของที่พักแนวไลฟ์สไตล์โดยมีคิดส์คลับ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายแห่งที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วรีสอร์ท รวมถึงฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน น้ำสปา (Namm Spa) ที่มาพร้อมทรีตเมนต์เพื่อความผ่อนคลายในบรรยากาศอันเงียบสงบ โดยผู้เข้าพักยังสามารถเข้าถึงหาดส่วนตัวทั้ง 3 แห่งได้อย่างสะดวกสบาย และยังมี ‘ปิกนิกบนชายหาด’ ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารแสนอร่อยบนผืนทราย ให้เป็นหนึ่งในมื้อที่น่าจดจำตลอดไป
‘ดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์’ ยังมีความได้เปรียบจากทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติมาเล่ ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายด้วยเรือเร็วโดยใช้เวลาเพียง 5 นาที มากไปกว่านั้น รีสอร์ทยังมีแผนที่จะเป็นศูนย์กลางของความบันเทิง และมีห้องประชุมขนาดเล็กเพื่อเติมเต็มทุกประสบการณ์ให้สมบูรณ์ตามมาตรฐานของโรงแรมและรีสอร์ทในกลุ่มดุสิตธานี และเพิ่มความเป็นไปได้อีกมากมายสำหรับการมาเยือน เช่นเดียวกับการออกแบบที่ต้องไม่ดูแปลกแยกจากบริบทแวดล้อม โดยเฉพาะธรรมชาติอันบริสุทธิ์สวยงาม การเลือกสรรวัสดุจึงต้องทำอย่างพิถีพิถันให้เป็นไปตามหลักการของ Tree of Life ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของกลุ่มดุสิตธานีที่ต้องการเสริมความมุ่งมั่นนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการใช้กระบวนการและระบบที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
มร. ฟาน เจียงลิน, กรรมการผู้จัดการ บริษัทเพิร์ล อะทอลล์ เปิดเผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ กลุ่มดุสิตธานี เพื่อบริหารจัดการรีสอร์ทแห่งแรกของเราในมัลดีฟส์ เรามีความประทับใจในแบรนด์ของดุสิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการต้อนรับอันสง่างามที่ได้แรงบันดาลใจจากความเป็นไทย ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในเรื่องของความเอาใจใส่ ผู้เข้าพักทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น รวมถึงความสะดวกสบายจากทำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยม เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้คำแนะนำและประสบการณ์ของกลุ่มดุสิตธานี จะทำให้รีสอร์ทแห่งนี้ประสบความสำเร็จ และเป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกอย่างแน่นอน”
ปัจจุบัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในเครือดุสิตธานี ครอบคลุม 18 ประเทศ ประกอบด้วย โรงแรม และรีสอร์ทในเครือดุสิต รวมถึงวิลล่าระดับลักซ์ชูรีมากกว่า 300 หลัง