KB J Capital ร่วมกับ KB Kookmin Card บริษัททางการเงินยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ เดินหน้าสร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคม ผ่านโครงการ “Smart Classroom for Smart Future” ที่โรงเรียนวัดกาหลง ส่งมอบอุปกรณ์ไอที เพื่อยกระดับการเรียนการสอน 

นายชาง กวอน ลี (Mr. Chang Kwon Lee) Chief Executive Officer บริษัท KB Kookmin Card บริษัทที่ให้บริการด้านธุรกิจบัตรเครดิตระดับแนวหน้าในประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ในฐานะที่กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินในประเทศไทยแบบ non-bank จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (KB J Capital) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม KB Financial Group จึงเดินหน้าโครงการ “Smart Classroom for Smart Future” ขับเคลื่อนด้านการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเยาวชน จากการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน เสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียน และปูทางการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในอนาคต นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ทางด้านการเงิน เพื่อปลูกฝังเรื่องการออมและการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงได้ดำเนินโครงการนี้ขึ้นมา เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณภาพทางด้านการศึกษาอย่างยั่งยืน และตอกย้ำการเป็นกลุ่มผู้นำในธุรกิจการเงินและสินเชื่อจากประเทศเกาหลีใต้ของประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง

สำหรับการดำเนินโครงการกิจกรรมในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นที่ โรงเรียนวัดกาหลง จังหวัดสมุทรปราการ โรงเรียนระดับชั้นอนุบาล และประถมศึกษา ซึ่งบริษัทฯ มุ่งหวังสร้างคุณภาพทางด้านการศึกษาให้กับเยาวชนในทุกภาคส่วน ทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน สภาพแวดล้อม รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในโรงเรียน  และสามารถนำความรู้และอุปกรณ์ต่างๆมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์แก่โรงเรียนได้อย่างมากที่สุด

นายฮยอน วู โน (Mr. Hyunwoo Noh), Chief Executive Officer บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลจากประเทศเกาหลีใต้ในประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมบริการทางการเงินที่ทันสมัย เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญทั้งด้านการทำธุรกิจและการทำกิจกรรมเพื่อสังคม จึงได้ริเริ่มและดำเนินโครงการ “Smart Classroom for Smart Future” นำทีมพนักงานลงพื้นที่พัฒนาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน ปรับปรุงอาคาร รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ทางด้านการใช้งานเทคโนโลยีให้แก่นักเรียน โรงเรียนวัดกาหลง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดย สนับสนุนอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เม้าส์ หูฟัง และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ  เพื่อช่วยให้การเรียนการสอนสะดวกสบาย และเข้าถึงการเรียนรู้ ผ่านเทคโนโลยี เข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านโลกดิจิทัล ที่ในยุคปัจจุบันที่การเรียนรู้มากกว่าในห้องเรียน รวมถึงได้รีโนเวทห้องคอมพิวเตอร์ใหม่ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ซ่อมแซมโครงสร้างให้แข็งแรงและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และมอบอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ เป็นห้องเรียน Smart Classroom ที่จะเป็นพื้นที่แห่งโลกอนาคตของนักเรียนทุกคน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดคลาสเรียนพิเศษ โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินมาให้ความรู้ทางด้านการเงินกับเด็กนักเรียน ถึงหลักการออมเงิน เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการออมและการใช้เงินให้เกิดประโยชน์ นับเป็นการปลูกฝังการใช้เงินอย่างมีคุณภาพในอนาคต

อีกทั้ง ยังเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทำระบบไฟใหม่ ติดแอร์ และมอบเครื่องนอนและอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับเด็ก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเด็กเล็ก และปรับปรุงพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ในโรงเรียน อาทิ ปรับพื้นห้องน้ำใหม่ ติดอ่างล้างมือ ชักโครกสำหรับเด็ก อ่างแปรงฟัน เป็นต้น เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนให้ทันสมัยและน่าอยู่ พร้อมบริจาคสิ่งของที่จำเป็นทั้งในส่วนของอุปโภคและบริโภค จัดฟู้ดทรัค เลี้ยงอาหารและขนม ทำกิจกรรมร่วมกับเด็กนักเรียนในมื้อกลางวันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้วกว่า 3 ปี ภายใต้บริษัทร่วมทุนของ KB Kookmin card Co., Ltd. และ Jaymart Group ผ่านแบรนด์ “Kashjoy” ซึ่งปัจจุบันให้บริการสินเชื่อใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.บัตรกดเงินสดแคชจอย อีซี่ “Kashjoy easy card” ในรูปแบบบัตรกดเงินสด ประเภทสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล(Revolving Loan) 2.สินเชื่ออเนกประสงค์แคชจอย(Personal Loan) ในรูปแบบสินเชื่อส่วนบุคคล 3.สินเชื่อผ่อนชำระโทรศัพท์มือถือแคชจอย (Mobile Loan) นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับแบรนด์ซัมซุงในการให้บริการผ่อนชำระการซื้อโทรศัพท์มือถือของซัมซุงในประเทศไทย ผ่านแบรนด์ ซัมซุงไฟแนนซ์พลัส (Samsung Finance+) 

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับและปรับปรุงธุรกิจสินเชื่อเพื่อให้บริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า และเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดบัตรเครดิตในอนาคต สนับสนุนทางด้านการเงินให้แก่คนไทยอย่างมีคุณภาพ และไม่ลืมที่จะดำเนินธุรกิจบนหลัก ESG ที่ดีครอบคลุมทั้งในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี