ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำยุทธศาสตร์ธนาคาร สอดรับนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจไทยต้องเป็นหนึ่ง” ร่วมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) ดูแลลูกค้ากลุ่มฐานรากและกลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างระบบการเงินไทยให้แข็งแกร่ง
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการให้สินเชื่อเพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างเหมาะสม ตลอดการดำเนินงานกว่า 70 ปี ที่ผ่านมา
โดยในปี 2567 ธอส. ยังคงเดินหน้าสานต่อแนวทางดังกล่าว จึงได้จัดทำยุทธศาสตร์ธนาคาร เพื่อผลักดันให้ ธอส. ก้าวสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bank) ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจไทยต้องเป็นหนึ่ง” ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการร่วมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งสอดคล้องกับการมอบนโยบายของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ ธอส. เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่สนับสนุนให้คนไทย โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มฐานรากได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น โดยยุทธศาสตร์ของ ธอส. มิติด้านสังคม (Social) มุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ และผู้ขาดโอกาสทางสังคม ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ผ่านสินเชื่อ Social Solution ที่จะให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและการชำระเงินงวดในระดับต่ำ เช่น โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home, โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุข เพื่อผู้สูงวัย ปี 2567, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ(Reverse Mortgage) ซึ่งในปี 2567 ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในกลุ่ม Social Solution สูงถึง 157,654 ล้านบาท
นอกจากนี้ยุทธศาสตร์ธนาคารยังมีแนวทางในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยการจัดทำโครงการ Bank on Bank ที่มีการจัดสรรงบประมาณให้แก่ชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนกู้ยืมเงินไปปรับปรุงที่อยู่อาศัย โดย ธอส. ไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินมีที่อยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะมากขึ้นด้วย และโครงการ ธอส. โรงเรียนผู้สูงอายุ โดยมีการฝึกอบรมอาชีพ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้กับตนเอง ซึ่งจะสามารถลดภาระให้แก่ครอบครัวและสังคม และช่วยลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านสวัสดิการ
สำหรับมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ธอส. พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Green Loan วงเงินกว่า 10,000 ล้านบาท รองรับที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ อาทิ สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2567, สินเชื่อบ้านปลอดฝุ่น ปี 2567, สินเชื่อ Solar Roof ปี 2567 และโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรในการสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์ หรือปรับปรุงที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ การจัดทำยุทธศาสตร์ของ ธอส. ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ ธอส. ยังคงเป็นธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการมีบ้านของคนไทยต่อไปแล้ว ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบการเงินไทยให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลอีกด้วย