NEX ร่วมกับ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ ใช้หัวลากไฟฟ้า EV Tractor 423 kWh เพื่อการขนส่งวัตถุดิบจากแหลมฉบังสู่โรงงานทิปโก้แอสฟัลท์ จังหวัดนครราชสีมา “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา”ออกโรงหนุนเต็มที่ เหตุให้ความสำคัญต่อ Green Logistics ทั้งส่งเสริมแนวคิดด้านนวัตกรรม ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ และความปลอดภัยในองค์กรที่ยั่งยืน
นายสรนารถ นันทมนตรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้งานรถหัวลากไฟฟ้า จาก บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทย โดยนำไปใช้งานในกลุ่มบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ โดยเส้นทางการวิ่งของรถหัวลากไฟฟ้า รุ่น 423 kWh นี้ จะใช้ขนส่งวัตถุดิบจากต้นทางคือ แหลมฉบัง ไปยังโรงงานทิปโก้แอสฟัลท์ จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 40 ปี ครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจโรงกลั่นยางมะตอย, ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางมะตอยทั้งในประเทศและต่างประเทศ, ธุรกิจเดินเรือขนส่งยางมะตอยทางทะเล และธุรกิจก่อสร้างถนน โดยมีเครือข่ายธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชีย พร้อมกับความมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่งเสริมนวัตกรรม ตระหนักถึงความปลอดภัย สนับสนุนสวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน และคำนึงถึงประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายและแผนกลยุทธ์หลักขององค์กร สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ รวมไปถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ถือเป็นกระแสโลก (Global trend) ที่มีความสำคัญในปัจจุบัน นายสรนารถ กล่าว
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้งานรถหัวลากไฟฟ้า ในกิจการของกลุ่มบริษัททิปโก้แอสฟัลท์ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจยางมะตอยแบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
โดย NEX พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนกลุ่มบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของ NEX ในการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อ Green Logistics ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังส่งเสริมแนวคิดด้านนวัตกรรม ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ และความปลอดภัยในองค์กรที่ยั่งยืน ซึ่งการนำรถหัวลากไฟฟ้า EV Tractor 423 kWh เข้ามาใช้ในองค์กร นอกจากจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในอนาคตด้วย