Interview

หาคำตอบรีไฟแนนซ์บ้าน กับ ‘เอกสิทธิ์’ CIMBT ‘ต้องหั่นดอกเบี้ยลงได้ 50%ทันที ลดภาระหนี้เก่า’
4 พ.ย 2564

นับวันลูกค้าสินเชื่อบ้านจำนวนมากตกอยู่ในภาวะผ่อนจ่ายหนี้นานกว่า 3 ปี  และปีที่ 4 ขึ้นไป ต้องแบกภาระดอกเบี้ยแพงขึ้นตามสัญญา ทำให้ลูกค้ามองหาที่รีไฟแนนซ์บ้านไม่ขาดสาย ธนาคารต่างๆ ก็จัดโปรแกรม “รีไฟแนนซ์บ้าน"ให้เลือกเยอะ จะเลือกอย่างไรดีผ่อนสบายๆมีคำตอบ

 

ล่าสุด ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ผุ้นำตลาดรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ได้จัดแคมเปญออกมา มาฟัง “เอกสิทธิ์ พฤฒิพลากร” ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ฉายภาพรวมตลาดรีไฟแนนซ์บ้านและการรุกตลาดรีไฟแนนซ์บ้านของ CIMBT ว่า  เนื่องจากคนไทยมีภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ล่าสุด ไตรมาสแรกปีนี้ ยอดหนี้ครัวเรือนสูงกว่า 14 ล้านล้านบาท เกินกว่า 80%ของ GDP แล้ว  หนี้ในก้อนนี้พบว่าเป็นหนี้จากการซื้อบ้านสัดส่วน 34.2% การเป็นหนี้เพื่อซื้อบ้าน ถือเป็นการก่อหนี้ที่ดีเพราะบ้านเป็นหลักประกันความมั่นคงของชีวิต แต่กว่าจะผ่อนหนี้บ้านหมดแต่ละหลังต้องใช้เวลานานนับสิบปีสำหรับคนที่มีรายได้ประจำจากการทำงาน และแต่ละงวดที่จ่ายค่าผ่อนบ้านช่วงแรกๆจะถุกตัดค่าดอกเบี้ยก้อนใหญ่กว่าตัดเงินต้นด้วย

 

ถึงแม้ว่าช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้อัตราดอกเบี้ยกู้ที่ถูกเป็นโปรโมชั่นให้ลูกค้าแต่จะอยู่ในช่วง 3 ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นเข้าปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นมาตามอัตราตลาดโดยรวม แน่นอนว่า การผ่อนบ้านในปีที่ 4 ยังต้องเผชิญกับหนี้เงินต้นก้อนใหญ่อยู่ เมื่อบวกกับดอกเบี้ยที่ปรับเข้าสู่อัตราที่สูงกว่าเดิม ยิ่งทำให้การตัดเงินต้นได้ลดน้อยลงไปอีก

 

ธนาคารต่างๆ จึงได้จัดแคมเปญเพื่อแก้ pian point เหล่านี้ให้ลูกค้าสินเชื่อบ้าน แม้วัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อลดภาระจ่ายดอกเบี้ยบ้านที่แพงให้แก่ลูกค้า  แต่ในด้านการตลาดของแบงก์ที่ออกแคมเปญรีไฟแนนซ์บ้านมา ก็เพื่อดึงดูดลูกค้าสินเชื่อม้านมาใช้บริการกับธนาคารตนเอง ซึ่งจะนำมาสู่การต่อยอดบริการทางการเงินด้านอื่นๆได้ในระยะข้างหน้า 

 

“ปกติ จะมีลูกค้าสินเชื่อบ้านในระบบจำนวนมากที่ผ่อนชำระค่างวดนานมากกว่า 3 ปื   ในปัจจุบันดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไปโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4.5% – 5.5% เมื่อเทียบกับดอกเบี้ย 3 ปีแรกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2.4% - 2.8% ธนาคารจึงอยากกระตุ้นลูกค้าสินเชื่อบ้านให้ลุกขึ้นมาบริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ  ช่วยลดภาระทางการเงินในยุคโควิดที่เศรษฐกิจยังไม่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ ด้วยการรีไฟแนนซ์”

 

โดยควรจะมองหาสินเชื่อโปรแกรมใหม่ที่เสนอดอกเบี้ยที่ถูกกว่า เริ่มจากพูดคุยกับธนาคารเดิมก่อน แล้วศึกษาทางเลือกเพิ่มเติมจากธนาคารอื่น ๆ เพื่อหาโปรแกรมใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่า ซึ่งจะสามารถช่วยลูกค้าให้ลดภาระดอกเบี้รายเดือนลงได้ทันทีกว่า 50% และยังสามารถปลดล็อกหนี้ เป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 5 – 10 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและวงเงิน)  

 

วิธีการนี้ สามารถใช้ลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ก็เช่นกัน โดยเฉพาะลูกค้าที่กำลังผ่อนชำระขั้นต่ำหนี้บัตรเครดิตจำนวนหลายใบ สามารถรีไฟแนนซ์ รวมหนี้เป็นก้อนเดียวแล้ว แทนที่หนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ย 16% ด้วยสินเชื่อบุคคลแบบมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ธนาคารนำเสนอ ดอกเบี้ยอยู่ที่ 11.84% หรือเรียกได้ว่าช่วยประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยถูกลงกว่า 30%  

 

“ผมอยากชวนลูกค้าตั้งคำถาม ‘ผ่อนบ้านนานเกิน 3 ปีแล้วมีโอกาสรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยถูกลงกว่า 50%’  หรือ ‘จะผ่อนบัตรเครดิตขั้นต่ำดอกเบี้ยแพงไปทำไม กู้สินเชื่อบุคคลดอกเบี้ยถูกกว่ามาโปะประหยัดดอกเบี้ยลงกว่า 1 ใน 3’ รีไฟแนนซ์จะช่วยคุณมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่เบาลง คุณจะมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น อยากชวนทุกคนมาจัดระเบียบชีวิตทางการเงิน โดยสร้างวินัยการเงิน สร้างเครดิตที่ดี ภาระดอกเบี้ยน้อยลง กำลังซื้อเพิ่มขึ้น มีเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งเป็นกระตุ้นให้เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากโควิคเร็วขึ้น”

 

เขาได้กล่าวถึงการรุกตลาดรีไฟแนนซ์ของ CIMBT ว่า ล่าสุด ได้ออกโปรแกรมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.39%  พร้อมฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ฟรีค่าอากรแสตมป์ ฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปีแรก ถือว่า เป็นอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว และช่วยลูกค้าปลดหนี้และเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้นด้วย ซึ่งธนาคารเปิดให้ยื่นสมัครทางออนไลน์ด้วย

 

ขณะเดียวกัน ธนาคารยังได้ทำแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคนมีเครดิต สินเชื่อบุคคลเพอร์ซัลนัลแคช อัตราดอกเบี้ย 11.84% ต่อปี ผ่อนนาน 24 เดือน สำหรับพนักงานประจำรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป  สามารถรีไฟแนนซ์ด้วยสินเชื่อบุคคลช่วยจัดการหนี้ง่ายขึ้น ลดภาระดอกเบี้ย และได้ประโยชน์จากการจ่ายดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก  อย่างน้อยก็ลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้และสามารถนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นหรือสำคัญกว่า  เพราะฉะนั้น ควรมาเช็คภาระหนี้กับการบริหารจัดการใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับกระแสเงินสดที่มีในแต่ละเดือน  และสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้นกว่าเดิม

 

“เอกสิทธิ์” ได้ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่มีหนี้คงค้างในบัตรเครดิต 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 16% ผ่อนขั้นต่ำ 10% เป็นระยะเวลา 24 เดือนและโปะเงินต้นในงวดสุดท้าย ลูกค้าจะต้องชำระค่างวดประมาณงวดละ 6,800 บาทโดยเฉลี่ยใน 12 เดือนแรก แต่หากรีไฟแนนซ์หนี้บัตรมาใช้โปรแกรมสินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช อัตราดอกเบี้ย 11.84% นาน 24 เดือน ค่างวดจะลดลงเหลือ 4,700 บาทต่อเดือน ค่างวดจะถูกลงกว่า 30% และยังประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้อีกกว่า 30% ถือว่าไม่น้อยเลย

 

ส่วนใครที่รู้สึกว่า เงินในมือตึงตัวหรือหมุนไม่ทัน เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ยังอยุ่ในช่วงกำลังฟื้นตัวจากโควิด และต้องการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง  ธนาคารมีทางเลือกให้ลูกค้าเหมือนกัน อย่างสินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช อัตราดอกเบี้ย 11.88% ต่อปี นาน 24 เดือนแรก สำหรับพนักงานประจำรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป เป็นวงสินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ เหมาะสำหรับเป็นวงเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องหรือสำรองไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น  

 

ธนาคารได้ออกแบบสินเชื่อตัวนี้ เผื่อให้ลูกค้าที่สมัครเผื่อไว้ก่อน และอาจจะยังไม่ได้ใช้วงเงินในทันที ก็สามารถทำได้โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียดอกเบี้ยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด 3% เช่นกัน

 

ทุกวันนี้ ธนาคารส่วนใหญ่ ยังคงดีไซน์แบบสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านออกมาให้ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งราคา(ดอกเบี้ยถูก) และยอดผ่อนแต่ละงวดและระยะเวลาที่เหมาะสมให้เลือกหลายแพคเกจ  ซึ่งขึ้นอยู่กับลูกค้าจะเลือกแบบที่ใช่และเป็นประโยชน์กับตัวเองอย่างไร  เมื่อตัดสินใจได้ก็เดินหน้าเข้าไปหาแบงก์นั้นๆ เพื่อดำเนินการรีไฟแนนซ์ให้เรียบร้อย เพราะการบริหารจัดการหนี้ด้วยการลดภาระจ่ายดอกเบี้ย จะช่วยปลดล็อกหนี้เก่าได้เร็วขึ้น  เมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจใดๆก็สามารถประคองตัวรอดได้โดยยังมีบ้านเป็นหลักประกันของตนเอง

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com