เสร็จสิ้นลงแล้วสำหรับ การเปิดให้จองหุ้น IPO "สิวารมณ์ เรียลเอสเตท" หรือ SVR น้องใหม่อสังหาริมทรัพย์ป้ายแดง ที่เสนอขายจำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-2 ก.พ. ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินความคาดหมาย ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้จองซื้อ ซึ่งหุ้น SVR จะเข้าซื้อขายในตลาด mai วันที่ 8 ก.พ. ที่จะถึงนี้ 

คลับหุ้น ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารคนเก่ง คุณรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส ของบริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท บอกว่า กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สะท้อนถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งของบริษัท 

แม้ "สิวารมณ์" จะเป็นบริษัทอสังหาฯไซต์เล็ก น้องใหม่ ไม่ well known หรือเป็นที่รู้จักเหมือนบริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่เราเป็นอสังหาฯ แบบ High Growth หรือ เติบโตอย่างรวดเร็ว  

คุณรณฤทธิ์ เล่าที่มาของการ High Growth ว่า สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จดทะเบียนเมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อปี 2560 และเริ่มต้นทำธุรกิจในปี 2561 เน้นบ้านแนวราบ เช่น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตอบโจทย์คนในเมือง โดยเฉพาะโครงการในกรุงเทพ ปริมณฑล จะเน้นแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย 

จุดแข็งของ สิวารมณ์ คือ

1.เน้นขายบ้านเกรดพรีเมี่ยม ในราคาคุ้มค่า หรือ Premium Economy 

โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ ในระดับราคา 1-7 ล้านบาท เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ และเป็นกลุ่ม Real Demand เพื่อตอบสนองทุกความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” ที่เข้ามาตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุควิถีชีวิตใหม่ ประกอบด้วย 

1.) Smart Location เน้นทำเลที่ตั้ง เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และใกล้รถไฟฟ้า 
2.) Smart Function เน้นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าและลงตัว 
3.) Smart Value ราคาที่คุ้มค่าเข้าถึงได้  
4.) Smart Home เน้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ Lifestyle ทุก Generation”  

จากจุดแข็งนี้ ทำให้เราสามารถขายบ้านได้หมดภายใน 2 วันหลังจากเปิดตัวโครงการ ซึ่งเป็นโครงการแรกที่เราเริ่มดำเนินธุรกิจ ส่วนโครงการอื่นๆ ก็มียอดจองไม่น้อยกว่า 50% หลังเปิดตัวโครงการ   

2. สร้างเร็ว ขายเร็ว โอนเร็ว โครงการบ้านของสิวารมณ์ จะเป็นบ้านสร้างก่อนขาย ทำให้ลูกค้าเสียเวลาไม่ต้องผ่อนดาวน์ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสองทางเหมือนโครงการบ้านในรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องมานั่งผ่อนดาวน์เป็นปีกว่าบ้านจะสร้างเสร็จ ไหนจะต้องเสียค่าเช่าบ้านระหว่างรอบ้านสร้างเสร็จ ของสิวารมณ์ ทำสัญญาจองแค่ 3 เดือน บ้านสร้างเสร็จ ทำเรื่องกู้แบงก์ผ่าน ทำเรื่องโอน เข้าอยู่ได้ทันที ที่สำคัญหากไม่สามารถซื้อบ้านของสิวารมณ์ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เราคืนเงินจองให้ทุกกรณี

3.เราทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบหนุนเร็ว เน้นพัฒนาโครงการขนาดที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ ทำให้สามารถกระจายการพัฒนาโครงการได้ในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการและไม่เกิดอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้โครงการของสิวามรณ์ สามารถขายได้หมดภายในระยะเวลา 3 ปี เมื่อสร้างเร็ว ขายเร็ว โอนเร็ว ทำให้เรามีเงินทุนที่จะไปหมุนเวียนทำโครงการใหม่ๆ ต่อ ทำให้ยิ่งมีรายได้มาก และกำไรก็มากตามไปด้วย

จาก 3 จุดแข็ง ที่กล่าวมานี้ ทำให้ "สิวารมณ์" เติบโตแบบ High Growth อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ในการดำเนินธุรกิจเพียง 5 ปี  ปี 2562 มีรายได้รวม 243 ล้านบาทปี ขยับเป็น 557 ล้านบาท ในปี 2563  และโตขึ้นเป็น 576 ล้านบาทในปี 2564 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ทำรายได้แล้ว 532 ล้านบาท 

ส่วนตัวเลขกำไร ในปี 2562 ขาดทุน 5 เพาะเป็นช่วงเริ่มต้นการทำธุรกิจ ในปี 2563 มีกำไร 42 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไร 64 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกปี 2565 กำไร 36 ล้านบาท

ขณะเดียวกันอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ในระดับต่ำ โดย ณ 9 เดือนแรกปี 2565 D/E เพียง 1.39 เท่า และบริษัทฯได้กำหนดนโยบายการดำรง D/E ก่อน IPO 3:1 และหลัง IPO 2:1 

ในขณะที่แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการโครงการบ้านแนวราบ เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้นตาม

ปัจจุบัน "สิวารมณ์" มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและการขาย  6 โครงการ มูลค่ารวม 2,996 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. สิวารมณ์ ซิตี้ ระดับราคา 1.7-3.0 ล้านบาท 2. สิวารมณ์ วิลเลจ ระดับราคา 2.5-5.0 ล้านบาท 3. สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส ระดับราคา 2.3-5.9 ล้านบาท 4. สิวารมณ์ ปาร์ค ระดับราคา 3.5-4.3 ล้านบาท และ 5. แกรนด์ สิวารมณ์ ระดับราคา 4.6-6.2 ล้านบาท และระหว่างพัฒนา 1 โครงการ มูลค่า 686 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2566 ในเร็วๆ นี้

นี่คือ บทสรุป ที่เป็นจุดแข็งของสิวารมณ์ ที่ทำเติบโตแบบ High Growth ได้อย่างต่อเนื่อง และจะเติบโตแบบนี้ต่อไป เพราะเราเป็นหุ้นไซต์เล็ก แต่เป็น "เล็กพริกขี้หนู" 

และที่สำคัญ "สิวารมณ์" ยังไม่เคยจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมาก่อน ทำให้ปัจจุบัน มีกำไรสะสมอยู่กว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่บอร์ดบริษัทอาจจะมีการพิจารณานำกำไรสะสมดังกล่าวมาจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

ราคาหุ้น"สิวารมณ์ เรียลเอสเตท" หรือ SVR ที่จะเทรดวันแรกในตลาด mai จะเป็นอย่างไร ร้อนแรงแค่ไหน พุ่งแรง แบบ High Growth เหมือนธุรกิจหรือไม่ คงต้องมารอลุ้นกันในวันที่ 8 ก.พ.นี้