อีกไม่นาน หุ้นน้องใหม่ UBA หรือ บริษัท ยูทิบิตี้ บิสิเนส อันลายแอนซ์ จำกัด(มหาชน) ผู้นำนวัตกรรมด้านการให้บริการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร จำนวน 170 ล้านหุ้น ก็จะเปิดเสนอขายหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอ Filling มีผลใช้บังคับ จาก ก.ล.ต.  ก่อนจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายในสิ้นปีนี้  

UBA มีจุดเด่นอะไรที่ทำให้นักลงทุนสนใจจองซื้อ "คลับหุ้น" ได้สัมภาษณ์คุณสมชาติ สังหิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูทิบิตี้ บิสิเนส อันลายแอนซ์ จำกัด(มหาชน)  เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูล

คุณสมชาติ เล่าว่า UBA มีกลุ่มผู้ถือหุ้นหลัก คือ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามราชธานี จำกัด 

จุดเริ่มต้นของ UBA มาจาก บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ ซึ่งดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ชนะประมูลงานก่อสร้างโครงการโรงควบคุมคุณภาพน้ำหนองแขม-ทุ่งครุ ของสำนักงานจัดการคุณภาพน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ทำให้เนาวรัตน์พัฒนาการ มองเห็นโอกาสในธุรกิจใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงแตกไลน์ธุรกิจ ตั้ง UBA ขึ้นมา เมื่อปี 2544 จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 21 ปีแล้ว 

ปัจจุบัน UBA เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านการให้บริการบริหาร จัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ให้บริการได้ครอบคลุมใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์การให้บริการ ได้แก่ งานระบบบำบัดน้ำเสีย งานอุโมงค์ระบายน้ำ และงานระบบน้ำประปา 

โดยมีการให้บริการใน 2 ประเภท คือ

1.ให้บริการงานวิศกรรม และจัดหาอุปกรณ์ ประกอบด้วย การออกแบบ ก่อสร้าง และให้คำปรึกษา การบริการจัดซื้อ และติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ 

2.งานด้านบริการบริหารจัดการ เดินระบบและบำรุงรักษา ทั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบน้ำประปา ระบบอุโมงค์ระบายน้ำ และการให้บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร และอุปกรณ์ 
 

ปัจจุบัน UBA เป็นผู้ให้บริการจัดการน้ำเสียเอกชนรายใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร และเป็นบริษัทเอกชนเพียงรายเดียว ที่ได้รับให้ดูแลงานอุโมงค์ระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร 

โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการโครงการให้กับกรุงเทพมหานครมาต่อเนื่องแล้ว จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000.00 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,200.00 ล้านบาท 

การที่บริษัทเน้นงานของกรุงเทพมหานคร ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในส่วนของงานกทม. ทำให้สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐมากถึง 80% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากภาคเอกชนอยู่ในระดับ 20%

โดยในปี 2562 ถึง 2564 และงวดหกเดือนแรก ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 432.40 ล้านบาท 532.69 ล้านบาท 533.59 ล้านบาท และ 327.18 ล้านบาท ตามลำดับ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11%

โดยที่สัดส่วนรายได้มาจากการบริหารจัดการน้ำ เดินระบบ และบำรุงรักษาแบบครบวงจร 80.78% และรายได้จากการบริการด้านวิศวกรรมและจัดหาอุปกรณ์ 19.17% 

ในส่วนของกำไรสุทธิ ในช่วงปี 2562 ถึง 2564 และงวดหกเดือนแรกปี 2565 เท่ากับ 18.30 ล้านบาท 43.43 ล้านบาท 52.35 ล้านบาท และ 30.83 ล้านบาท ตามลำดับ หรือกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 9%

ขณะที่ปัจจุบัน มีมูลค่างานในมืออีก 1,616 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2 ปี ขณะที่งานใหม่ๆ ก็ทยอยมีเข้ามาเรื่อยๆ  

คุณสมชาติ บอกว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ มีวัตถุประสงค์หลัก 5 ด้าน 1.นำไปใช้เป็นเงินลงทุนพัฒนาระบบสารสนเทศ 2.ใช้ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ 3.ใช้ซื้อและปรับปรุงเครื่องจักรที่ใช้สนับสนุนการดำเนินงาน 4.เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และ 5.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ภายหลังการระดมทุน จะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง ซึ่งจะทำให้มีทุนหมุนเวียนมากขึ้น ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.96 ทำให้บริษัทมีความสามารถในการไปรับงานติดตั้ง หรืองานที่มีมูลค่าสูงๆ ได้มากขึ้น 

จากแผนของภาครัฐและเอกชน มองว่าจากนี้ไปอีก 5 ปี น่าจะมีมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในอดีต UBA ได้งานเฉลี่ยประมาณ 30-50% ทำให้เห็นภาพคร่าวๆ ว่า UBA จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน UBA ก็มีแผนจะขยายงานในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ ที่มีการปล่อยน้ำเสีย ทั้งภาคอุตสาหกรรม ทั้งที่อยู่อาศัย โดยจะรุกทั้งในส่วนราชการ และเอกชน เช่น เทศบาลเมืองต่างๆ ศูนย์ราชการ  โรงพยาบาล รพ.ภูมิพล รพ.ศิริราช โดยจะไปอย่างมีแบบแผน

นอกจากนี้ การเป็นบริษัทมหาชน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI จะช่วยสร้าง Brand Awareness ให้คนทั่วไปรู้จัก UBA มากขึ้น ก็จะยิ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้พัฒนาเติบโตเพิ่มขึ้น
 

ดังนั้นการได้งานใหม่เข้ามา จึงมีนัยสำคัญต่อการเพิ่มของกำไร ทำให้คาดว่ารายได้ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะเติบโต 10-30%

คุณสมชาติ บอกว่า จุดแข็งของ UBA คือ ธุรกิจบริการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร มีผู้เล่นน้อยราย ทำให้คู่แข่งขันไม่เยอะ ประกอบกับการรับงานภาครัฐ ต้องมีประสบการณ์ระดับหนึ่ง และต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด โดยเฉพาะการผ่านงานภาครัฐมาก่อน ทำให้ UBA ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในส่วนของงาน กทม. 

นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค จึงมีความมั่นคงของรายได้

รวมทั้ง UBA ยังมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30%ของกำไรสุทธิ และจากแผนของ UBA ที่คาดว่าจะยังเติบโตได้อีกมาก จึงน่าจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่ดีด้วย

ด้วยเหตุผลทั้งหมด  จึงทำให้หุ้นของ UBA ดูดี มีอนาคต และได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก