หุ้น BLA เป็นอีกหุ้นใหญ่ในกลุ่มประกันชีวิต ได้ติดโผ 1 ใน 146 บริษัทในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2564 และสามารถพิสูจน์ฝีมือการบริหารธุรกิจรอดฝ่าวิกฤตโควิด-19 มาด้วยผลดำเนินงานที่ชนะอุตสาหกรรม ในปี 2565 นับเป็นปีที่ 3 ของการเกิดโควิด -19 ที่่ยังไม่จบง่ายๆ จึงยังคงเป็นอีกปีที่ท้าทายการนำทัพองค์กรก้าวสู่เป้าหมายข้างหน้า มาฟัง นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA ออกมาแถลงข่าวใหญ่ประจำปี 2565 "ทิศทางธุรกิจสู่ความยั่งยืน 'A JOURNEY TOWARDS SUSTAINABLE FUTURE' "
แม้ในปี 2564 ธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พบว่า โดยภาพรวมช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 เบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งระบบอยู่ที่ 545,039 ล้านบาท เติบโต 2.56% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเติบโตของกรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และประกันชีวิตควบการลงทุน(Unit-Linked) แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว(Single premium)
สำหรับผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันชีวิต ในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่แล้ว เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโต 2.97% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม ด้านผลกระทบจากการเคลมของลูกค้าโควิด-19 โดยภาพรวมมีการจ่ายเคลมในส่วนนี้ประมาณ 12%ของพอร์ตเคลมรวม บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ขณะเดียวกัน เป็นผลดี เนื่องจากยอดเคลมเกี่ยวกับไข้หวัด ท้องเสีย กลับลดลงมาก จึงช่วยชดเชยการเคลมโควิดไม่ได้สูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Omicron อย่างใกล้ชิด แม้อาการไม่รุนแรงก็ตาม
ชูจุดขาย Healt & Wealth รับตลาดประกันชีวิตโตโลด
"แม้ 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยถูกผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่สิ่งหนึ่งที่น่ายินดี คือ อัตราการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และเบี้ยฯรับรวมก็ยืนอยู่ได้ในระดับสูง แสดงให้เห็นว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าบางกลุ่มการเงินจะฝืดเคือ่งบ้าง แต่ลูกค้าก็เห็นประโยชน์ของกรมธรรม์ประกันชีวิต และพยายามรักษาไว้และเป็นสิ่งท้ายๆที่จะตัดทิ้ง แนวโน้มข้างหน้ายังเห็นโอกาสของธุรกิจประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาพลักษณ์และการยอมรับของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อธุรกิจประกันชีวิต รวมถึงการเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงจำเป็นต้องวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณ มีการออมมากขึ้นออมเพื่อลงทุนเพื่อดูแลตัวเองมีชีวิตมั่นคงในอนาคต " นายโชนกล่าว
โดยในปี 2565 กรุงเทพประกันชีวิตมองเห็นโอกาสของธุรกิจประกันชีวิต ทั้งจากความต้องการประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง การรับรู้ข้อมูลการเจ็บป่วยและความยุ่งยากในการเข้ารับการรักษากรณีติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) จากสวัสดิการพื้นฐาน และความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่างๆ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เป็นบวก โดยธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 2.9% ซึ่งจะส่งเสริมให้ธุรกิจประกันชีวิตได้รับประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพ (Health) และการสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน (Wealth)
นอกจากนี้ การหันมาขายประกันชีวิตของธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้เกิดช่องทางการขายใหม่ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี อาทิ ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจอื่นๆ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ หรือสถาบันการเงินด้านอื่นๆ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์การเงินแบบครบวงจร การลงทุน การออม และประกันภัยประกันชีวิต
ทั้งนี้ ข้อมูลโครงสร้างการออมของภาคครัวเรือนไทยปี 2557-2563 พบว่า การออมผ่านประกันภัยจาก 0.2% ในปี 2557 ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 13.9% ในปี 2563 โดยมีสัดส่วนปรับเพิ่มขึ้นทุกที ขณะที่การออมผ่านการฝากเงินชะลอตัวลง และการลงทุนผ่านกองทุนรวมเพิ่มขึ้น
จับทิศทางบริหารพอร์ตลงทุนปี 65
ขณะที่แนวโน้มเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve) ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อยู่ในภาวะดอกเบี้ยต่ำมานาน แต่ธุรกิจประกันชีวิตต่างก็ปรับตัวออกแบบประกันที่มีเงินปันผล แบบประกันยูนิตลิงค์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยช่วงดังกล่าว
ส่วนทิศทางการบริหารพอร์ตลงทุนจากนี้ไป โดยภาพรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงสัดส่วน เนื่องจากพอร์ตส่วนใหญ่ 80%ของบริษัท ส่วนใหญ่จะลงทุนตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ ส่วนอีก 20% จะเป็นการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ลงทุน REIT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) นอกจากนี้ ได้เพิ่มการลงทุนใน Private Equity ด้วย แต่สัดส่วนไม่มากจึงยังไม่มีนัย สำหรับมุมมองต่อหุ้นในปีนี้ยังมีความผันผวนสูง แต่คงยึดหลักการเลิอกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและเน้นลงทุนระยะยาว เน้นหุ้น Value Stock มากกว่า Growth Stock และต้องมีเป็นหุ้นที่มี Upside ด้วย จึงจะเข้าไปลงทุนเพื่อให้สอดรับพอร์ตรวม
แผนธุรกิจระยะ 3 ปี กับกลยุทธ์ 5 มิติสู่องค์กรยั่งยืน
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเพื่อการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน (a journey towards sustainable future) บริษัทจึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้น 5 มิติหลักขับเคลื่อนสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนซึ่งประกอบด้วย
1.Health บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ (Excellent Health Services) โดยมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ซึ่งปัจจุบันมีแผนความคุ้มครองสุขภาพ ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย เช่น Prestige Health แผนความคุ้มครองทุนประกันสูงพิเศษ และความคุ้มครองด้านสุขภาพยามเดินทางต่างประเทศ และ Happy Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมห้องพักเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล และมอบความคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาทต่อการรักษา และมีแผนสินค้าใหม่ที่ได้วางขายคือ Value Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพ เพื่อความคุ้มครองที่เพิ่มจากที่มีอยู่ กับสินค้า Value Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพเด็ก
นอกจากนี้ มีการพัฒนาระบบนิเวศด้านสุขภาพ(Health Ecosystem) ด้วย BLA Health Services ที่มอบความอุ่นใจด้วยบริการสุขภาพครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น BLA Health Partner, BLA Every Care และ E-Services โดยที่ผ่านมาโครงการ Care@Home ที่กรุงเทพประกันชีวิตมอบให้แก่ลูกค้าในสถานการณ์โควิด-19 สำหรับผู้ประสบปัญหา Home isolation จากโควิด-19 เฟสที่ 1 เริ่มในเดือน ส.ค.2564 และโครงการ Care@Home เฟสที่ 2 เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 เป็นต้นไป และจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักของกรุงเทพประกันชีวิตในการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร จากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้า(Net Promoter Score: NPS) ในปี 2564 อยู่ที่ 44% ปรับตัวเพิ่่มขึ้น 4% จากปี 2563
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 ประกันสุขภาพเติบโต 9.28% และสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง (CI) เติบโต 6.53%
2.Wealth ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น 1.ประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล(participating policy) จุดเด่นคือ วางแผนชีวิต วางแผนการลงทุน ผลตอบแทนที่มากกว่า เงินต้นไม่สูยหาย วางแผนการศึกษาบุตร และวางแผนลดหย่อนภาษี 2.ประกันชีวิตควบการลงทุน วางแผนเพื่อเป้าหมายต่างๆ ครบจบในกรมธรรม์เดียว สามารถปรับลดสัดส่วนความคุ้มครองและการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น มีกองทุนรวมระดับคุณภาพที่ได้รับการคัดสรรจากนักวิเคราะห์การลงทุนของกรุงเทพประกันชีวิตสำหรับจัดพอร์ตลงทุน ปัจจุบันมีกองทุนให้เลือกลงทุนถึง 12 ทางเลือก จากการบริหารของ 3 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และยังมีที่ปรึกษาทางการเงินและระบบทำงานเพื่อการวางแผนการเงินที่ตอบเป้าหมายชัดเจน
3.Digital Insurance ทุกกระบวนการรับประกัน ในรูปแบบดิจิทัล ภายใน 5 ปี ตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App
4.Channel การเพิ่มช่องทางการขาย มีคุณภาพและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด โดยพัฒนาคุณภาพช่องทางตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ผ่านโครงการ Smart Agent, Smart FA และ Smart Leader โดยมีโครงสร้างแผนรายได้และเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทีมขายมุ่งสู่เส้นทางการเติบโตยั่งยืน โดยปีนี้มีนโยบายจะรับตัวแทนใหม่เข้ามาอีก 3,000 คน
ขณะเดียวกันสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และยังมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้นำช่องทางขายประกันออนไลน์ แบบประกันหลากหลายประเภท อาทิ การออมทรัพย์, การเกษียณ และสุขภาพ โดยข้อมูลปี 2564 กรุงเทพประกันชีวิตมีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรายใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการขายช่องทางดังกล่าวถึง 60% และผ่านตัวแทน 30% ส่วนที่เหลือผ่านช่องทางอื่นๆและประกันกลุ่ม
5.Social Responsibility ขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการสังคม จิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน