KISS เราจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

ตราบใดที่ผู้หญิงไม่หยุดสวย..! ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ 3,000 ล้าน

KISS หรือ บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ Rojukiss ยังคงมุ่งพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพและความงาม ตราบใดที่ผู้หญิงไม่หยุดสวย ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปี  และคาดหวังจะขึ้นไปอยู่อันดับท็อป 3 ในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า

หากเอ่ยถึง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า หลายคนคงจะนึกถึง เซรั่ม เพราะเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ที่มีเนื้อเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก มีความเบาบางมากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่น อย่างเช่น เจล หรือครีม

และเมื่อเอ่ยถึงเซรั่ม หลายคนน่าจะนึกถึง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า แบรนด์ Rojukiss เพราะเป็นรายแรกๆ ที่นำผลิตภัณฑ์เซรั่ม เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีอีกหลายแบรนด์ทั้งรายใหญ่ และรายเล็ก หันมาทำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือ Skincare ด้วยเซรั่ม จนเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน 

“คลับหุ้น” มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวิภาภรณ์ เนียมละออง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ Rojukiss, Sis2Sis, Best korea และอื่นๆ มาเล่าถึงความเป็นมา และเป็นไปในทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต ภายใต้ Big Challenge การแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง โดยยืนยันว่ายังคงมุ่งพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพและความงาม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ตราบใดที่ผู้หญิงยังไม่หยุดสวย..!

คุณวิภาภรณ์ เล่าว่า โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล เดิมชื่อบริษัท เอฌ็องซ์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ที่ล้ำหน้าด้านวิทยาการ มีนวัตกรรมใหม่ๆ โปรดักส์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งเราเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำผลิตภัณฑ์เซรั่มเข้ามาในประเทศไทย ในแบรนด์ "Rojukiss" ก่อนจะซื้อแบรนด์มาทำตลาดในเมืองไทยเอง และมีการคิดค้นแบรนด์เพิ่มเติม เพื่อจับฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขาย 

ช่วงที่ผ่านมา แบรนด์ Rojukiss ได้รับความนิยมในไทยอย่างแพร่หลาย ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด ยอดขายรวมของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2562 มีรายได้มากถึง 1,138 ล้านบาท แต่เมื่อโควิดแพร่ระบาดรุนแรงมีการปิดห้างสรรพสินค้า และจำกัดเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ ทำเราล้มลุกคลุกคลานพอสมควร ยอดขายลดลง ทำให้รายได้ปี 2563 ลดเหลือ 965 ล้านบาท และ ปี 2564 เหลือ 772 ล้านบาท

หลังสถานการณ์โควิดเริ่มเบาบาง รายได้ขยับมา ปี 2565 เพิ่มเป็น 932 ล้านบาท และครึ่งแรกปี 2566 มีรายได้รวม 446 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลัง น่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเราคาดหวังว่าช่วงปลายปี 2566 อยากให้รายได้น่าจะกลับไปใกล้เคียงก่อนสถานการณ์โควิด เพราะภาพรวมอุตสาหกรรมตลาดเครื่องสำอาง เริ่มกลับมาดีขึ้นเหมือนช่วงก่อนโควิด

ปัจจุบัน ภาพรวมตลาดความงามในประเทศไทย มีมูลค่ารวมราว 1.49 แสนล้าน นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือ Skincare ราว 8.9 หมื่นล้าน หรือ 60% ของตลาดโดยรวม ผลิตภัณฑ์ดูแลผม 20% เครื่องสำอาง 14% และน้ำหอม 6 %

ถามว่า "โรจูคิส" อยู่ตรงไหนของตลาดเครื่องสำอาง เราเน้นเซ็กเมนต์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเป็นหลัก (Facial Moisturizer) เฉพาะแบรนด์ Rojukiss อย่างเดียว เราเป็นแบรนด์ที่ส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ใน อันดับ 6 ในตลาด Skincare ที่เป็นเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ไม่รวมเมคอัพ ไม่รวมมาส์ก และเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่เป็นแบรนด์ของคนไทย ซึ่ง "โรจูคิส" มีส่วนแบ่งตลาด ประมาณ 4.4% ของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2566 จาก AC Nielsen )

แม้สินค้าหลักๆ ของ "โรจูคิส" จะอยู่ในกลุ่มความงาม ตัว Skincare และเครื่องสำอาง แต่พันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ของเราไม่ได้อยากอยู่แค่ในโลกของความงาม อย่างเดียว เราอยากอยู่ในแบบ HEALTH AND BEAUTY คือ ใส่ใจเรื่องสุขภาพด้วย จึงได้ขยายสู่ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เพราะเราต้องการ “เป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพแห่งอนาคตของเอเชีย”(Health & Beauty for the Future of Asia)

ในปี 2565 จึงได้ร่วมลงทุนในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและบรรจุยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเข้าสู่ธุรกิจ เพื่อสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบ ตามพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มุ่งหมายจะเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพ แห่งอนาคตของเอเชีย

ปัจจุบัน "โรจูคิส" ประกอบธุรกิจหลักใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดกว่า 100 SKUS ทั้งภายใต้แบรนด์ Rojukiss แบรนด์ Sis 2 Sis และแบรนด์ Best Korea

คุณวิภาภรณ์ เล่าว่า ในส่วนแบรนด์ Rojukiss การที่เรามี Positioning ที่ค่อนข้างชัดเจนในการเป็น "แบรนด์เซรั่ม" จนแบรนด์อื่นๆ ก็หันมารุกตลาด Skincare ด้วยเซรั่มกันหมด แล้วเราจะทำอย่างไรที่จะเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้เราเป็นผู้นำเรื่องเซรั่มมาแล้ว

เราจึงเอาความเก่งเฉพาะตัวในเรื่องเซรั่มมาต่อยอด กระจายไปในสินค้าในตัวอื่น ไม่จำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เช่น แชมพูเปลี่ยนสีผม ที่เอาเซรั่มไปเป็นผสม สามารถเปลี่ยนสีผมได้ภายใน 7 นาที สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ซึ่งปล่อยสินค้าสู่ตลาด (Launch) เมื่อปีที่แล้ว มีหลากสูตร หลายสี หรือก่อนหน้านี้ ก็มีเซรั่มมาส์ก (Serum Mask Sheet) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดเช่นเดียวกัน

ล่าสุด เป็นนวัตกรรม Serum Lip Care ลิปสติกบำรุงฝีปากที่มีส่วนผสมของเซรั่มอีกด้วย

วันนี้สิ่งที่จะเราจะทำให้แตกต่างคือ นวัตกรรมที่แอดวานซ์ขึ้นไปอีก ด้วยคำว่า Clinical Grade โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการทดสอบอย่างจริงจัง ว่าเห็นผลหลังจากใช้ พร้อมทั้งเปลี่ยนหน้าตาแพ็คเกจจิ้ง หรือรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ให้ดูล้ำสมัยขึ้นไปอีกขั้น

เช่น ผลิตภัณฑ์ ANTI-GRAVITY หรือ ครีมต้านแรงโน้มถ่วง ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผิวหน้าเราถูกแรงโน้มถ่วงดึง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เราจึงเป็นเจ้าแรก ที่มีผลิตภัณฑ์ ต้านแรงโน้มถ่วง โดยออกมา 2 แพลตฟอร์ม ในลักษณะเนื้อครีม และล่าสุดออกมาเป็นเซรั่ม มีชื่อเล่นว่า ครีมพี่หนุ่ม เพราะมี "คุณหนุ่ม" กรรชัย กําเนิดพลอย ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เป็น พรีเซนเตอร์

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งปล่อยสู่ตลาด ซึ่งแอดวานซ์กว่าเซรั่ม ทั่วไป คือ Rojukiss White Poreless Skin Reset Ampoule Serum ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้หญิงเกาหลีกำลังนิยม คือ ผิวหน้ากระจก ใบหน้าจะมีความวาว ฉ่ำน้ำ ซึ่งจะมาเป็นเทรนด์ใหม่ในประเทศไทย

อีกตัว คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ROJUKISS VIT C 17% ANTI-OXIDANT POWER SERUM ที่มี "ใบเฟิร์น" พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ นักแสดงชื่อดัง เป็น พรีเซนเตอร์ และเพิ่งจะได้รับรางวัล BEST OF BRIGHTENING SERUM จากงานประกาศรางวัลสุดสัปดาห์ BEAUTY AWARDS 2023

นอกจากผลิตภัณฑ์หลัก ภายใต้แบรนด์ Rojukiss เรายังมีอีก 2 แบรนด์ ที่กระจายกันจับกลุ่มลูกค้า คือ แบรนด์ Sis2Sis ที่มีน้อง "ซี" พฤกษ์ พานิช และ "นุนิว" ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ นักแสดงชื่อดังในซีรีส์วาย เป็นพรีเซนเตอร์

และแบรนด์ Best Korea ซึ่งไม่ได้เน้นการสร้างแบรนด์ให้คนจดจำ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ แต่อยากใช้อะไรใหม่ๆ ที่เน้นในเรื่องของส่วนผสม

หากพิจารณาจากผู้หญิงเกาหลี บิวตี้ รูทีน ตั้งแต่อาบน้ำ ทาผิว แต่งหน้า มีไม่ต่ำกว่า 10 ชิ้น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของหญิงไทย มีประมาณ 6-7 ชิ้น ดังนั้น ตราบใดที่ "ผู้หญิงยังไม่หยุดสวย" ตลาดบิวตี้ในไทยยังไปได้อีก ยังโตต่อเนื่อง

คุณวิภาภรณ์ เล่าว่า ในตลาด Facial Moisturizer ในปีนี้ มีการเติบโตและฟื้นตัวค่อนข้างดี และแบรนด์    "โรจูคิส" ในช่วง 6 เดือนแรกโตถึง 20% ซึ่งตลาดนี้ก่อนโควิดโตแค่ 6-8%เท่านั้น และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก

ทำให้ปีหน้าเราตั้งเป้ารายได้ไว้สูงมาก เพราะก่อนโควิด เราเคยโตถึงปีละ 30-40% 

อะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะโตได้ปีละ 30-40% เพราะ "โรจูคิส" ได้หว่านเมล็ดพันธุ์สร้างการเติบโต ด้วยแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ใน 3 ด้าน

- การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ที่ทำมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และติดหูผู้บริโภคให้ได้ ด้วย 3 พรีเซ็นเตอร์หลัก คือ "คุณหนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย - "ใบเฟิร์น" พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ใน แบรนด์ Rojukiss  น้อง "นุนิว" ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ และ น้อง "ซี" พฤกษ์ พานิช สำหรับแบรนด์ Sis2Sis ถัดจากที่สร้างการรับรู้ของผู้บริโภคแล้ว ก็แปลงกลับมาให้เป็นยอดขายให้ได้

- การรุกเข้าสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อเปิดพื้นที่การตลาดในส่วนที่เรายังไม่ได้รุกเข้าไปอย่างเต็มตัว เพราะผ่านมาเราเน้นตลาดออนไลน์แต่ มาร์เก็ตเพลส คือ ช็อปปี้ ลาซาด้า แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อกระตุ้นยอดขายในตลาดออนไลน์ จะมีการทำกิจกรรมมากขึ้น มีการซื้อสื่อโฆษณา มีการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) จ้างคนรีวิวสินค้า ใช้วิธีติดตระกร้า โดยให้คนที่รีวิวสินค้า มีลิ้งค์ให้กดเข้าไปซื้อสินค้าใน ช็อปปี้ ลาซาด้า ส่วนคนที่รีวิว ก็จะได้มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่น และวันนี้ที่เราจะบุกเพิ่ม คือ Tiktok ซึ่งทุกวันนี้ใครๆ ก็ไป Tiktok เพราะซื้อขายคล่องมาก และไม่ได้ขายอย่างเดียว จะเน้นโปรโมท รวมถึง รีวิวสินค้าไปด้วย

- การขยายตลาดในต่างประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่เฉพาะใน สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ภายใต้แบรนด์ต่างๆ จะขยายตลาดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ รวมทั้งตลาดจีน ด้วย

ด้วยกลยุทธ์ของเรา การโฆษณาสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ การรุกตลาดออนไลน์ การจะขยายไปตลาดต่างประเทศ ทำเราคาดหวังจะเติบโต 30-40% ในแต่ละปี

เป้าจริงๆ ปีหน้า เฉพาะแบรนด์ Rojukiss แบรนด์เดียว เราคาดหวังไว้ว่าจะแตะ 1,000 ล้านบาทให้ได้ 

และตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดหวังจะให้ทั้งพอร์ต สกินแคร์ เมคอัพ และ Health มียอดขายรวมกันถึง 3,000 ล้านบาท

วันนี้ ด้วยทรัพยากรที่เรามี เราจึงโฟกัสไปเรื่องสกินแคร์และเมคอัพ ที่กลับมาฟื้นหลังโควิด เป็นหลักก่อน ส่วน Health จะเป็นสเต็ปต่อไป

คุณวิภาภรณ์ บอกว่า วันนี้ Rojukiss อยู่อันดับ 6 ในตลาด Skincare ที่เป็นเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ซึ่งเราก็อยากอยู่ในโซนท็อป 3 ให้ได้ ถามว่ายากมั้ย มันก็ยาก เพราะต้องอาศัยการเติบโต อาศัยแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ ในการเข้าไปแข่งขันในตลาด ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ซึ่งวันนี้ในช่องทางการจำหน่าย ในร้านสะดวกซื้อ หรือ คอนวีเนียนสโตร์ เราสามารถแซงเบอร์ใหญ่ๆ ขึ้นมาแล้ว

ดังนั้นหากจะถามว่า จะสามารถขึ้นไปอยู่ในโซนท็อป 3 เป็นไปได้มั้ย ก็มีโอกาส

คุณวิภาภรณ์ ฝากทิ้งท้ายถึงนักลงทุนว่า "โรจูคิส" ยังคงมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแผนที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำตลาด อยากให้นักลงทุนใจเย็นอีกนิดหนึ่ง คงจะได้เห็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ "โรจูคิส"