มาแล้ว!! ทางออกของคนติดกองทุน LTF  เตรียมขอย้ายเข้ากองทุนใหม่ ThaiESGX ถือยาว 5 ปี รับสิทธิลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท ส่วนนักลงทุนเข้าใหม่ไดเ 3 แสน  เปิดขายแค่ 2 เดือน “พ.ค.-มิ.ย.” เท่านั้น พร้อมคาดมีเงินไหลเข้ากองใหม่ ThaiESGX รวม 1.6 แสนล้าน มาจากLTF 1.3 แสนลบ. และเงินใหม่ 3 หมื่นลบ. คลังยอมสูญรายได้ภาษีฯ 5 หมื่นลบ.

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) เรื่องการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF ) เป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX  โดยให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จัดตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ คือ Thai ESGX ที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน (ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) และจะต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๕ ของ NAV โดยมาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) และช่วยชะลอแรงเทขายของผู้ถือหน่วยกองทุน LTF ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันจำนวนทั้งหมด 1.8 แสนล้านบาท

“กองทุน ThaiESGX จะเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนเพียง  2 เดือน คือ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น ดังนั้น ผู้ถือ LTF สามารถแจ้งขอสวิสกับ บลจ.ที่ดูแลกอง LTF ของตัวเองได้เลย  เราคาดว่าจะมีผู้ถือ LTF ย้ายไปกองใหม่ราว 75%(1.3 แสนล้านบาท และเม็ดเงินใหม่จากส่วนที่สองเข้าราว 3 หมื่นล้านบาท รวมๆ 1.6 แสนล้าน ซึ่งคลังประเมินจะสูญเสียจัดเก็บรายได้ภาษีที่ลดหย่อนฯราว 5 หมื่นล้านบาท“ 

สำหรับมาตรการสนับสนุนการลงทุนกองทุน  ThaiESGX  จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาวงเงิน 5 แสนบาท โดยมีอายุลงทุน 5 ปีเต็ม ทั้งนี้ ได้จัดเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน LTF ที่มีชื่อ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 สามารถขอสับเปลี่ยนหรือโอนย้าย (swiss) ไปลงทุนในกองทุนรวม ThaiESGX ได้ ทั้งนี้ จะต้องย้ายเงินลงทุนที่ถือ LTF ทั้งหมด จึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยปีแรกจะสิทธิลดหย่อนภาษีฯ สูงสุด 3 แสนบาท และส่วนที่เหลือทะยอยใข้สิทธิลดหย่อนปีละไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อปี นับตั้งแต่ปี 2568-2572)  และกลุ่มที่สอง สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนกองทุนใหม่นี้ จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีฯไม่เกิน 3 แสนบาทหรือไม่เกิน 30%ของเงินได้ฯ 

"กองทุน ThaiESGX จะช่วยเพิ่มการลงทุนในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนสำหรับนักลงทุน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนไม่ให้เงินลงทุนไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อันจะเป็นการเพิ่มเสถียรภาพของตลาดทุนไทยและสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุน"นายพรชัยกล่าว

ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนรวม ThaiESGX จะทำให้ผู้ถือ LTF มีทางเลือกลงทุนใหม่ ส่วนกองใหม่นี้จะช่วยให้หุ้นปรับตัวได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีหุ้นที่เข้าเงื่อนไข ESG ราว240 หลักทรัพย์ ทางก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังพยายามให้บริษัทจดทะบียนไทยปรับตัวเข้าตามเงื่อนไขกลุ่ม ESG ซึ่งคาดสิ้นปีนี้จะเห็น บจ. ไทยมีเพิ่มขึ้นรวม 300-400 หลักทรัพย์ จะทำให้ผู้จัดการกองทุนมีหุ้น ESG ที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลดำเนินงานที่ดี เลือกลงทุนได้มากขึ้น

“ทั้งนี้ ผู้ถือ LTF จะสามารถติดตามข้อมูลว่าถือ LTF ของบลจ.ใดได้บนแพลตฟอร์ม fund connext ของตลาดหลักทรัพย์ได้ เพื่อจะได้ดำเนินการตัดสินใจต่อไปมีระยะเวลา 2 เดือนสิ้นสุดมิถุนายนนี้

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า มาตรการจัดตั้งกองทุนใหม่ ThaiESGX จะช่วยให้มีเงินออมอยู่ในตลาดทุนไทยต่อไปทั้งเงินจาก LTF ที่ย้ายมาและเงินใหม่ที่ลงทุน 

”ตลาดหลักทรัพย์พร้อมเข้ามาดูแลด้านการดำเนินการโอนย้ายกองทุนเพื่อให้ราบรื่น อย่างไรก็ตาม การตั้งกองทุน ThaiESGX  อาจจะไม่ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ ซึ่งมาตรการต่างๆทราออกมาเป็นเพียงองค์ประกอบนึงเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นลง ซึ่งไม่ใช่แคาปัจจัยในประเทศมากระทบ แต่ยังมีปัจจัยต่างประเทศ อีกไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในเวลานี้  ก็ส่งผลกระทบแม้แต่เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นอเมริกาที่ปรับตัวลดลงแรง และตลาดหุ้นเอเซียก็ปรับตัวลดลงตามด้วยวันนี้มีหลายๆปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทย  การมีมาตรการกองทุน ThaiESG ถือเป็นโครงการที่ดีออกมาสนับสนุนตลาดทุนไทยในระยะยาว และยังสอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์กำลังจะทำคือ Jump+ สนับสนุนบริษัทจดทะเบียนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น" นายอัสสเดช กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยลดลง 14% มาร์เกตแคป ลดลงกว่า 2 แสนล้านบาท

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) .กรุงไทย (KTAM) ซึ่งร่วมบริหารพอร์ตของกองทุนรวมวายุภักษ์ 1  ขนาด 1.5 แสนล้านบาท และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC)   กล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยผู้ถือหน่วยกองทุน LTF มีทางเลือกเข้าลงทุนกองใหม่ ThaiESG และยังได้ลดสิทธิลดหย่อนภาษีฯด้วย มาตราการนี้จะมีทั้งเม็ดเงินเก่า LTF ที่ย้ายไปกองใหม่ลงทุนต่อไปและมีเม็ดเงินใหม่เพิ่มเติม เชืาอว่าจะทำให้ตลาด หุ้นไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น

“หากเงินส่วนนี้เป็นเงินออมระยะยาว  ขอแนะนำให้ย้ายเข้ากองทุนใหม่จะได้ประโยชน์กว่าที่จะปล่อยไว้ในกอง LTF เนื่องจากกองทุน LTF ที่ผู้ถือหน่วยไถ่ถอนออกหรือย้ายออกไป จะมีขนาดเล็กลงและจะถูกปิดกองทุนในที่สุด”นางชวินดากล่าว

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ 

1. จัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX  ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จัดตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ โดยยื่นขออนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) และจะต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๕ ของ NAV ทั้งนี้ บลจ. จะเปิดให้ผู้ลงทุนสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของ LTF ทั้งหมดที่ถืออยู่ในทุก บลจ. เป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX รวมทั้งเปิดขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป

2. มาตรการภาษีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยตามร่างกฎกระทรวงฯ ประกอบด้วย

2.1 การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX 

2.1.1 สิทธิประโยชน์ทางภาษี 

1) เงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยจะต้องซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX ภายในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งวันที่ 1 พฤษภาคม – วันที่ 30 มิถุนายน 2568 2) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับจากการขายหน่วยลงทุนตามข้อ 1) ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2.1.2 เงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ผู้ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX ต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX ไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน

2.2 การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนในกองทุน LTF และได้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนดังกล่าวเป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX

2.2.1 สิทธิประโยชน์ทางภาษี 1) มูลค่าของหน่วยลงทุนทั้งหมดที่ผู้มีเงินได้ถือในกองทุน LTF และได้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนดังกล่าวเป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 500,000 บาท โดยปีภาษี 2568 ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท และปีภาษี 2569 – 2572 ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคลลธรรมดาเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี กล่าวคือ ไม่เกินปีละ 50,000 บาท 2) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนตามข้อ 1) ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2.2.2 เงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน LTF จะต้องแสดงความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน LTF ทั้งจำนวนเป็นหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่กองทุน Thai ESGX เปิดให้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนครั้งแรก แต่ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยจะต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX ไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน 

การคำนวณเงินได้ที่ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ใช้จำนวนหน่วยลงทุน ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ และมูลค่าหน่วยลงทุนให้ถือราคา ณ วันที่แจ้งความประสงค์

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป ในปี 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกองทุน Thai ESGX เป็นวงเงินเพิ่มเติมจากวงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปัจจุบันสำหรับกองทุน Thai ESG และสำหรับในปี 2569 เป็นต้นไป วงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกองทุน Thai ESGX จะรวมอยู่ในวงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเดียวกับวงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปัจจุบันสำหรับกองทุน Thai ESG