กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ทิศทางอ่อนค่า  แกว่งตัวในกรอบ 33.50-34 บ./ดอลลาร์ ตัวแปรใหม่ “โควิด Omicron” บวกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ยิ่งกดดันเงินไหลออก-การฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวไม่แน่นอน

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (29 พ.ย. -3 ธ.ค.) ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.60 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.81-33.64 บาท/ดอลลาร์โดยเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเร่งคุมเข้มนโยบายรวมถึงความวิตกต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในช่วงท้ายสัปดาห์

เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ช่วงต้นสัปดาห์เงินยูโรแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 สัปดาห์ครั้งใหม่ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรป ขณะที่เงินเยนซื้อขายที่ระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปี จากทิศทางนโยบายของเฟดหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เสนอชื่อนายพาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อเป็นสมัยที่สอง กระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวทางการถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่รายงานการประชุมของเฟดบ่งชี้ถึงท่าทีสนับสนุนการเร่งปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ โดยเฟดแสดงความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อซึ่งอาจอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม เงินเยน ยูโร และฟรังก์สวิสกลับมาได้รับแรงหนุนช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดตื่นตระหนกเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ Omicron ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 3,045 ล้านบาท และ 14,197 ล้านบาท ตามลำดับ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ในระยะสั้นข้อมูลเกี่ยวกับ Omicron และประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่จะเป็นประเด็นขับเคลื่อนหลักของ Sentiment ตลาด ขณะที่สกุลเงินซึ่งเคยได้รับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเผชิญแรงขายท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนจะติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดและตัวเลขจ้างงานเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ รวมถึงการทบทวนการคาดการณ์ของตลาดเรื่องที่เฟดจะเร่งปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ ในภาวะเช่นนี้ กรุงศรีคาดว่าตลาดจะผันผวนสูงต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับระดับความรุนแรงของเชื้อสายพันธุ์ใหม่

สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่มีความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของประเทศหลักที่สูงขึ้น เนื่องจากไทยพึ่งพาการระดมทุนจากตลาดเงินโลกไม่มาก ขณะที่ธปท.เน้นย้ำว่านโยบายการคลังจะมีบทบาทหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจ เพราะได้ผลเร็วและตรงจุด

อนึ่ง ในระยะนี้ กรุงศรีประเมินว่าตัวแปรที่เปลี่ยนไปเป็น COVID สายพันธุ์ใหม่จะกดดันค่าเงินบาทผ่านกระแสเงินทุนไหลออกและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว