เกาะติดความเคลื่อนไหวราคาทองคำในวันนี้ (24 ก.พ.) ปรับตัวพุ่งขึ้น 50 ดอลลาร์ในเวลาครึ่งชั่วโมง ส่วนทองคำไทยดีดถึงบาทละ 850 บาท จำนวน 13 ครั้งในวันเดียว  หลังจากทางรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน กองทุุนทั่วโลกแห่เก็งกำไร spot ส่วนนักเล่นทองไทยเฮโลซื้อหวังเก็งกำไรตาม ลุ้นขายทองคำแตะ 30,000 บาท นักค้าทองเตือนความเสี่ยงสูง หากสงครามปิดฉาก ราคาทองดิ่งแรง เสี่ยงขาดทุนอ่วม

โดยวันนี้ ราคาทองคำ spotในต่างประเทศพุ่งขึ้นแรง 20-40 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงเวลาอันสั้น โดยล่าสุด (15.05 น เวลาในไทย) สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทอง spot ต่างประเทศ อยู่ที่ 1,943.50 ดอลลาร์ หลังจากขึ้นไปสูง 1,944  ดอลลาร์ 

ราคาทองคำในไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นถึง 13 ครั้ง จากเช้าวันนี้ (9.30 น.) ราคาทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 29,250 บาท รับซื้อ 29,150 บาท  (คำนวณค่าเงินบาท 32.36 บาท/ดอลลาร์ ) โดยเปิดตลาดเช้าปรับขึ้น พรวด 350 บาทจากเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นปรับตัวขึ้น 11 ครั้ง และลดลง 2 ครั้ง ซึ่งล่าสุด ราคาขายออกที่ระดับ  29,750 บาท และรับซื้อ 29,650 บาท ส่งผลให้วันนี้ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นสุทธิบาทละ  850 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ์ ล่าสุด ราคาขายออกทะลุไปที่ 30,250 บาทแล้ว ราคารับซื้อ 29,122 บาท จากเช้านี้ ราคาขายออกอยู่ที่  29,750 บาท และรับซื้อ 28,622.08 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG)วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นร้อนแรงว่า  วันนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหวเข้าภาวะ overbought (ร้อนแรง) มากเกินไปแล้ว  หลังจากสถานการณ์รัสเซียปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีในยูเครนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น 40 ดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้นๆขึ้นมาอยู่ที่ราว 1,950 ดอลลาร์  ซึ่งเป็นแรงซื้อเก็งกำไรจากกองทุนใหญ๋ทั่วโลกต่างเฮโลเข้ามา และหากรัสเซียยังคงปฏิบัติการรุนแรงต่อโดยทิ้งระเบิดลูกใหญ่อีกรอบ จะมีโอกาสเห็นราคาทองคำ spot ทะลุไปที่ 2,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของราคาทองคำในรอบนี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะร่วงลงแรงได้ 

"ตอนนี้ นักลงทุนทั่วโลกกลับมาสู่โลกเก็งกำไรทองแล้ว ไม่ใช่โยก asset เพื่อถือสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะกองทุนใหญ่ที่มีเงินเยอะ โยกเงินเข้าได้เร็ว จึงทำให้ราคาทองวิ่งได้แรงขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นคงไม่วิ่งแรงขึ้น 50 ดอลลาร์ภายในครึ่งชั่วโมง จึงบอกได้เลยว่า ราคาทองคำวันนี้ไม่ใช่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแล้ว ราคาพร้อมที่จะขึ้นแรงและลงแรงเสี่ยง บวก/ลบ 100 ดอลลาร์ภายในวันเดียว เกิดขึ้นได้ตลอด โดยสถานการณ์รัสเซียและยูเครน ประเมินได้ยากมาก ขึ้นกับยูเครนและรัสเซียเป็นหลัก ยิ่งรัสเซียไม่มีใครรู้ว่า การบุกครั้งนี้ต้องการอะไรแน่ แม้ว่าในช่วงสั้นๆ รัสเซียจะมีทิ้งระเบิดลูกเล็กลูกใหญ่จะมีผลต่อราคาทองแกว่งแรงก็ตาม ซึ่งก็มีโอกาสที่จะไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ได้เหมือนกัน หากยืดเยื้อ แต่ทุกคนรู้ว่า ในความเป็นจริงสุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องจบ แต่ไม่รู้ตอนไหน และถ้าเกิดรัสเซียออกมาจบเร็ว เพราะทนโลกคว่ำบาตรไม่ไหว จึงมีโอกาสที่ราคาทองจะทิ้งตัวลงแรง  จึงขอเตือนโมเมนต์นี้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงไม่ได้ แนะนำว่ายังไม่ควรเข้ามาเล่นรอบนี้ " นางพวรรณ์ กล่าว 

ทั้งนี้ YLG คาดการณ์ว่า ราคาทองคำ spot มีแนวต้านอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ ภายในสัปดาห์นี้  ในส่วนของราคาทองแท่งในไทย มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปแตะที่บาทละ 30,000 บาท ซึ่งเป็นจังหวะขาย

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า  หลังเช้าวันนี้ (24 ก.พ.) ประธานาธิบดีปูติน รัสเซียตัดสินใจที่จะเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ทำให้เกิดแรงซื้อทองคำเข้ามาอย่างหนัก ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างรวดเร็วทำจุดสูงสุดในรอบ 13 เดือนเข้าใกล้ 1,950 ดอลลาร์  เพิ่มขึ้นถึง 2% แต่ก็มีกระแสข่าวระบุว่าผู้นำรัสเซียไม่ได้ต้องการที่จะเข้ายึดครองยูเครน พร้อมเรียกร้องให้กองกำลังยูเครนวางอาวุธและถอยทัพกลับไป และประกาศด้วยว่ารัสเซียจะไม่ยอมปล่อยให้ยูเครนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมองว่าแนวโน้มราคาทองคำ Spot ในช่วงที่เหลือของเดือนนี้และต่อเนื่องเดือนมีนาคม คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,958 ดอลลาร์ และมีโอกาสขึ้นแตะ 2,000 ดอลลาร์ได้ 

"เราคาดการณ์ว่าราคาทองแท่งในประเทศจะถึง 3 หมื่นบาทและอาจจะทะลุ 3 หมื่นบาทได้ โดยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศจากวิกฤตยูเครน ที่ยังคงตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ จะยังทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง" นายธนรัชต์ กล่าว 

ปัจจัยหลักที่กระทบต่อราคาทองคำ ยังขึ้นอยู่กับวิกฤตยูเครนเป็นหลัก โดยจะต้องติดตามดูว่า ประธานาธิบดีปูตินจะตัดสินใจนำสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ เพราะจะทำให้วิกฤตในยูเครนรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งจะมีการสู้รบกันระหว่างกองทัพรัสเซียและกองทัพยูเครน รวมทั้งชาติตะวันตกจะส่งกำลังทหารมาช่วยยูเครน จนลุกลามนำไปสู่สงครามหรือไม่ หรือชาติตะวันตกพยายามหาทางเจรจากับรัสเซียเพื่อให้เหตุการณ์ตึงเครียด "ลดน้อยลง" ก็อาจจะทำให้มีแรง "เทขายทำกำไร"ในทองคำออกมา