“กรุงไทย” จัดใหญ่มาตรการแก้หนี้ ร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร” ติดปีกการเงินไทย สู่ความยั่งยืน
ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ตระหนักถึงผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง รวมถึงปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อรายได้ ค่าใช้จ่าย และภาระหนี้สินของลูกค้า ทั้งนี้ เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้า และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศ ธนาคารได้เข้าร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ภายใต้แนวคิด “ติดปีกการเงินไทย สู่ความยั่งยืน” โดยครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 –6 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี อาคาร 5 และจัดอย่างต่อเนื่องใน 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 18 – 20 พฤศจิกายน 2565 ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2565 ครั้งที่ 4 จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 20 – 22 มกราคม 2566 และครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 จังหวัดสงขลา
ธนาคารได้นำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจร ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ รวมถึงการเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้า ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ดังนี้
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อย ด้วยวิธีการรวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น (Debt Consolidation) อาทิ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อเช่าซื้อ เป็นต้น ภายใต้สถาบันการเงินเดียวกันและ/หรือสถาบันการเงินอื่น เพื่อเปลี่ยนสินเชื่อวงเงินกู้หมุนเวียน เป็นสินเชื่อแบบมีกำหนดระยะเวลา เพื่อขยายระยะเวลากู้ ปรับลดงวด ผ่อนชำระ และลดภาระผ่อนชำระ โดยสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
มาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อแก้หนี้อย่างยั่งยืน สำหรับลูกค้าประเภทบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้แบบ Step Up พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้ วงเงินกู้หมุนเวียน (Revolving Loan) เป็นวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Loan) ผ่อนสบายๆ แบบมีกำหนดระยะเวลาหรือมาตรการอื่นๆ เช่น การขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยการโอนทรัพย์ชำระหนี้ การแปลงหนี้เป็นทุน การเพิ่มสภาพคล่อง หรือ การขยายระยะเวลาผ่อนชำระ เป็นต้น ทั้งนี้ การพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยงของลูกค้าสำหรับลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/486
โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกค้าธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ และวิกฤติ โควิด -19 ที่มีเจ้าหนี้หลายราย (Multi-Creditors) โดยมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารมากกว่า 1 แห่ง วงเงินรวมตั้งแต่ 250 ล้านบาทขึ้นไป ลดการผ่อนชำระตามความสามารถของลูกค้า ยืดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ตามความเหมาะสม และเสริมสภาพคล่องตามศักยภาพของลูกค้า
มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจที่มีศักยภาพและมีทรัพย์สินเป็นหลักประกันให้สามารถลดภาระทางการเงินชั่วคราว ในช่วงที่รอให้ธุรกิจฟื้นตัว ด้วยวิธีการโอนทรัพย์ชําระหนี้และให้สิทธิซื้อทรัพย์คืนในอนาคต โดยราคาซื้อคืน เท่ากับ ราคารับโอน บวก ต้นทุนการถือครองทรัพย์ (Carrying Cost) 1 % ต่อปี บวกค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์ที่ธนาคารจ่ายตามจริง และหักค่าเช่าทรัพย์หลังตีโอนที่ลูกค้าชำระมาแล้ว
มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ปีแรก ไม่เกิน 2% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ไม่เกิน 5% ต่อปี) ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ได้รับยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือนแรก รวมทั้งได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นานสูงสุด 10 ปี
ธนาคารยังมี มาตรการช่วยเหลือพิเศษสำหรับลูกค้าประเภทบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งการพักชำระหนี้เงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวด และเปลี่ยนประเภทหนี้ รวมถึงสินเชื่อบ้าน Home For Cash เพื่อซ่อมแซม และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม อัตราดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปี เพียง 3.00% ต่อปี (อ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบัน) ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี ฟรีค่าธรรมเนียม 3 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าธรรมเนียมจดจำนอง สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อมากกว่า 20 ล้านบาท หรือมียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม สามารถยื่นขอวงเงินสินเชื่อธุรกิจ (Term Loan) เพื่อฟื้นฟูกิจการ อัตราดอกเบี้ยปีแรก 4% ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี สามารถยื่นขอสินเชื่อเพื่อรับ การช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาหรือหน่วยงานผู้ดูแลบัญชีสินเชื่อของลูกค้า ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2565
นอกจากนี้ ธนาคารเสริมทัพบริการทางการเงิน ด้วย Krungthai NPA MEGA SALE 2565 ยกทัพทรัพย์สินพร้อมขาย คุณภาพดีทั่วประเทศกว่า 3,000 รายการ มูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท ลดราคาสูงสุด 55% พร้อมสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับทรัพย์สินพร้อมขาย (NPA) ดอกเบี้ยเริ่มต้นปีแรก 0.5% ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน เปลี่ยนหลักทรัพย์ ให้เป็นเงินก้อนโตได้ง่ายๆ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท กู้ได้นาน 30 ปี สินเชื่อกรุงไทย Smart Money สำหรับ ผู้มีรายได้ประจำ แต่ไม่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคาร วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ไม่ต้องมีหลักประกันกู้ได้นาน 5 ปี พร้อมเสริมสภาพคล่อง ติดปีกธุรกิจ SME ด้วย สินเชื่อ Krungthai SME Smart Shop ร้านเล็กก็กู้ได้ แค่ใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หรือ เครื่อง EDC กรุงไทย ไม่ต้องใช้หลักประกัน วงเงินสูงสุดหลักล้านบาท
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 หรือ www.krungthai.com