MFC คลอดกองทุนใหม่เน้นกระจายลงทุนในหุ้นคุณภาพ-หุ้นเติบโต “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เฮลธ์ อินโนเวชั่น” เปิดขาย IPO 6-15 มิ.ย.นี้
บมจ.เอ็มเอฟซี (MFC) นำเสนอกองทุนใหม่ ‘กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เฮลธ์ อินโนเวชั่น’ (MFC Health Innovation Fund หรือ MHEALTH) ที่ลงทุนใน BGF World Healthscience Fund (กองทุนหลัก) กระจายการลงทุนอย่างผสมผสานระหว่าง หุ้นคุณภาพ (ธุรกิจเวชภัณฑ์ ธุรกิจบริการทางการแพทย์) ที่ทนทานต่อความผันผวน และ หุ้นเติบโต (ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ ธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์) เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน
กองทุน MHEALTH กำหนดเงินทุนโครงการอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนต่างประเทศ ประเภท Feeder fund ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ไม่กำหนดอายุโครงการ ความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 7 และจะเปิดให้จองซื้อได้ระหว่างวันที่ 6- 15 มิถุนายน 2565 จำนวนเงินสั่งซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ซื้อขายได้ทุกวันทำการ
ทั้งนี้ กองทุนหลัก ได้รับ Morningstar 5 ดาว บริหารโดยมี BlackRock ที่มีการลงทุนที่ยืดหยุ่นมีการควบคุมและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยกองทุนหลักลงทุนในบริษัทระดับชั้นนำด้าน Healthcare เช่น UNITEDHEALTH GROUP INC, Johnson&Johnson, Astrazeneca PLC, PFIZER INC, SANOFI SA และ ELI LILLY ที่มีกิจกรรมหลักทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์ และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
การลงทุนในธุรกิจการดูแลสุขภาพ (Healthcare) สอดคล้องกับ Mega Trend ถูกขับเคลื่อนโดย 1) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศส่วนใหญ่ที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ 2) แนวโน้มการใช้จ่ายด้านสุขภาพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 3) อุปสงค์ที่เกิดขึ้นใหม่จากนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญ 5 ด้าน คือ 1.ภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology) 2.เทคโนโลยีในการวินิจฉัยโรค 3.การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด 4.การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ด้านการดูแลสุขภาพ 5.การใช้เครื่องมือตรวจวัดและติดตามทางชีวภาพ
นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ MFC กล่าวว่า ในปี 65 การลงทุนหุ้นต่างประเทศค่อนข้างผันผวน จากภาวะเงินเฟ้อสูงและธนาคารกลางของสหรัฐดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวด และลดสภาพคล่องในระบบการเงินลง ท่ามกลางปัจจัยลบรุมเร้าตลาดหุ้นดังกล่าว หุ้น Healthcare ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ทนทานต่อความผันผวนของตลาดได้ดี และกลุ่ม Healthcare มีปัจจัย Mega Trend สนับสนุนการเติบโต และธุรกิจ มีลักษณะ Defensive สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อได้บางส่วน
ธุรกิจ Healthcare สามารถสร้างกระแสเงินสดมีการขยายตัวของรายได้และอัตราการเติบโตกำไร (Earning) ที่สูงกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบหุ้นในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ หุ้นกลุ่ม Healthcare ได้สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและโดดเด่นกว่าให้ผลตอบแทนที่ดีเทียบกับความเสี่ยง และมีระดับความผันผวนที่ต่ำกว่า และแม้ในตลาดหุ้นขาลง หุ้นกลุ่ม Healthcare มักให้ผลตอบแทนดีกว่า