กกร.ประกาศความสำเร็จก้าวแรกของ NDTP แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย ในงาน Digital Trade Transformation Symposium มุ่งมั่นพัฒนาเชื่อมโยงระบบระหว่างประเทศ ส่งเสริมทุกกลุ่มธุรกิจมีโอกาสทางการค้าเท่าเทียมกันและเติบโตอย่างยั่งยืน
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการทดสอบแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย (National Digital Trade Platform : NTDP) ในงาน Digital Trade Transformation Symposium ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ABAC 2022 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก
แพลตฟอร์ม NDTP มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของผู้ส่งออกผู้นำเข้า และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อให้การส่งออกนำเข้า ง่าย สะดวก รวดเร็ว ขึ้น ช่วยป้องกันการทำธุรกรรมในเชิงมิชอบหรือการทำธุรกรรมซ้ำซ้อน และช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการทำการค้าแก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยหรือ .SMEs ในประเทศ
NDTP ประสบความสำเร็จในพัฒนาแพลตฟอร์ม และการทดสอบรายการ Proof-of-Concept (POC)/Pilot Live ในเฟสที่ 1 ร่วมกับ แพลตฟอร์ม TradeWaltz ของญี่ปุ่น และแพลตฟอร์ม NTP (Networked Trade Platform) ของประเทศสิงคโปร์ เรียบร้อยแล้วในเดือนตุลาคม 2565 โดยมีขอบเขตรวมถึงการใช้เอกสารการค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐาน UNCEFACT สำหรับใบสั่งซื้ออิเล็กทรอนิกส์ ใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ และใบกำกับหีบห่ออิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารอื่นๆ ที่ยังเป็นรูปภาพ โดยมีธนาคารที่ร่วมโครงการระหว่าง NDTP ระยะที่ 1 ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทยธนชาต
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ประเทศไทยได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระดับชาติ ซึ่งจะรวมศูนย์และปรับปรุงขั้นตอนการนำเข้าและส่งออก เพื่อให้ประเทศไทยแข่งขันทางการค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะการค้าดิจิทัล โดยนำเสนอความยืดหยุ่นให้ธุรกิจสู่ความเป็นเลิศในโลกการค้ายุคใหม่ ดังนั้น ความสะดวกในการทำธุรกิจจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานร่วมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ความสำเร็จของ NDTP เฟสที่ 1 เกิดจากการผนึกกำลังของภาคส่วนต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆที่มีความคืบหน้าในด้านการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ และเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการค้าระหว่างประเทศสู่ระบบดิจิทัล ทำให้การทำธุรกรรมการค้า การนำเข้า และการส่งออกสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ คาดหวังว่าในระยะต่อไปจะสามารถขยายความร่วมมือในการพัฒนาเชื่อมโยงระบบระหว่างประเทศ และผลักดันให้เกิดการขยายผลการพัฒนาที่เชื่อมโยงกันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมส่งเสริมให้ทุกกลุ่มธุรกิจมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในการทำการค้าและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานร่วมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีความยินดีที่ภาคเอกชนไทยได้พัฒนาแพลตฟอร์ม NDTP เฟสที่ 1และนำไปสู่การทดสอบเชื่อมต่อจนสำเร็จ ความสำเร็จในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อก้าวสู่ระบบการค้าระหว่างประเทศแบบ fully digital ซึ่งสามารถลดต้นทุนและเวลา ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันตลอดจนเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลและความโปร่งใสในกระบวนการนำเข้า-ส่งออก
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์ม NDTP มาอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนต่อไปเพื่อยกระดับโดยขยายขอบเขตการเชื่อมโยงข้อมูลกับประเทศต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์ม NDTPจึงอยากจะเชิญชวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศให้เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์ม NDTP โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มนี้จะช่วยทำให้ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศของเราอยู่ในรูปแบบ digital ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้