รพ. ยันฮี คาดรายได้ปีนี้ 2 พันล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน กางแผนรุกตลาดศัลยกรรมเต็มสูบ ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าต่างชาติสัดส่วน 50%ของลูกค้ารวม ลุยโรดโชว์ลูกค้าต่างชาติปักธง CLMV นำร่องกัมพุชา หลังกวาดลูกค้า จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ชูจุดขายผ่าตัดแปลงเพศ พร้อมขยายฐานรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มวิตามิน และยา-อาหารเสริม เล็ง 5 ปี เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขนาด 400 เตียง
ทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริษัท โรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 ของ รพ. ยันฮี ผู้นำให้บริการทางการแพทย์แบบครบวงจร มีทั้งศัลยกรรมความงาม การรักษาโรคทั่วไปและการฟื้นฟูสุขภาพ ว่า เนื่องจาก รพ.ยันฮี มีจุดแข็งผู่นำ Top Three ด้านศัลยกรรมความงาม ทำให้มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาบริการอย่างต่อเนื่องและมีการใช้บริการด้านอื่นที่เกี่ยวเนื่อง( cross sell)เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแปลงเพศ ทำให้ธุรกิจด้านนี้เติบโต 4-5% สูงกว่า ตลาดศัลยกรรมที่เติบโต 2-3% ด้วยมูลค่าสูง 7 หมื่นล้านบาท ในส่วนของรพ. ยันฮี มีลูกค้าต่างชาติที่มาจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เข้ามาใช้บริการแปลงเพศ จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแปลงเพศหญิงเป็นชาย ปีละ 400 ราย ส่วนแปลงเพศชายเป็นหญิง ปีละ 80 ราย ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 200,000 บาทต่อเคส ในปีนี้ รพ.ยันฮี เดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น จึงได้ทำการตลาดออกไปโรดโชว์ลูกค้าต่างประเทศเพื่อโดยขยายไปกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งได้ออกไปโรดโชว์ที่กัมพูชาแล้ว ทั้งนี้ รพ.ยันฮี ได้ร่วมมือกับเอเจนซี่ในต่างประเทศในการให้บริการแกลูกค้าต่างชาติสามารถเข้ารับการบริการและรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติพี้อมมีล่ามแปลภาษาเพื่อให้คล่องตัวในการดูแลลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันรพ.ยันฮีมีลูกค้าต่างชาติสัดส่วน 30% ของลูกค้าทั้งหมด และตั้งเป้าหมายจะเพิ่มเป็นสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 50%ของลูกค้ารวม
สำหรับกลุ่มลูกค้าไทย 70 % มีทั้งใช้บริการด้านศัลยกรรมและรักษาโรคทั่วไป กลุ่มลูกค้าเป็นระดับกลางบน ที่มาใช้บริการ แม้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี คนยังให้ความสำคัญกับดูแลรูปลักษณ์ให้ดูดี ทำให้ยังมีลูกค้าวันละ 1,000 ราย
ปัจจุบัน โดยภาพรวมของ รพ. ยันฮีและบริษัทในเครือ ฐานรายได้มาจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ส่วนของธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งจะมีรายได้จากด้านศัลยกรรมความงามสัดส่วน 60%และด้านการรักษาโรคทั่วไป สัดส่วน 40%ของรายได้รวมส่วนให้บริการทางการแพทย์ และส่วนของธุรกิจที่ไม่ใช่บริการทางการแพทย์ ซึ่งจะมีบริษัทในเครือ คือ บริษัท ยาอินไทย จำกัด ผลิตยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง และ บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด ซึ่งมีมาร์เกตแชร์อยู่อันดับต้นๆ และไตรมาส 4 จะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ซึ่งธุรกิจในส่วนนี้จะเป็นฐานช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยตลาดเครื่องดื่มวิตามิน มีมูลค่า 5,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2567 รพ. ยันฮี คาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท ใกล้เคียง ปี 2566 ส่วนแผนระยะ 5 ปีในอนาคต เตรียมลงทุนเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ มีขนาด 400 เตียง เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มผู้สูงวัยใช้บรืการอยู่แล้วทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู่ป่วยที่ทำกายภาพ