Economies

SCBAM   คาด ปี 67 AUM  พุ่ง  2  ล้านล้าน  โต 5%   ชูตราสารหนี้ยังเด่น-ลุ้นหุ้นไทยขึ้น 1,600 จุด  
12 มี.ค. 2567

บลจ. ไทยพาณิชย์ คาด  AUM  ปีนี้พุ่ง 2 ล้านล้าน โต 5%  ชี้ปีนี้เป็นปีลงทุนที่ดั ชูตราสารหนี้ยังเด่น ต้นปีคลอดกองใหม่ 2 กองตราสารหนี้และกองหุ้น มองตลาดหุ้นไทยขาขึ้นมีแนวต้าน 1,600 จุด  พร้อมชู 4 กลยุทธ์ เร่งต่อยอดพัฒนาทั้งการบริหารจัดการกองทุน ผลิตภัณฑ์การลงทุน และงานบริการลูกค้าที่ครอบคลุมตอบโจทย์ครบทุกความต้องการมากยิ่งขึ้น มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถเพื่อเป็นแรงเสริม ควบคู่ในการผลักดัน SCBAM ให้สามารถเติบโตยั่งยืน

 

นายณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM กล่าวว่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่ดีของการลงทุนทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน   SCBAM จึงคาดว่า ปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ(AUM) ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 - 2 ล้านล้านบาท เติบโค 5% จากสิ้นปี  2566 ที่ AUM รวมอยู่ที่ราว 1.8 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่  21% และเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมกองทุน

 

"ปีนี้ AUM เราอาจจะเพิ่มมากกว่าที่คาดการณ์ ถ้าหากทิศทางผลตอบแทนตราสารหนี้ดี"

 

สำหรับปีที่แล้ว  SCBAM มีสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินตามกลุ่มธุรกิจ  3 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 960,000 ล้านบาท คิดเป็น 19% ,กลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 650,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% และ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 200,000 ล้านบาท คิดเป็น 14%ของทั้งหมด

 

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. ไทยพาณิชย์  คาดการณ์เป้าหมายดัชนีตลาดฯ ในปีนี้ ว่า  น่าจะมีแนวต้าน  1,550-1,600 จุดเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทั้งจากการท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายงบของภาครัฐ  ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย  สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนจะต้องดูปัจจัยเฉพาะตัวเช่น กลุ่มโรงพยาบาล , กลุ่มค้าปลีก ที่มีปัจจัยหนุนจากด้านบริโภคในประเทศที่ดี 

 

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้  SCBAM  วางแผนการบริหารจัดการใน 4 แนวทางหลัก ประกอบด้วย 

 

แนวทางที่ 1 การบริหารจัดการลงทุน ปีนี้ SCBAM มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคบริการที่ยังคงเติบโตและภาคการผลิตที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงอัตราเงินเฟ้อโลกมีสัญญาณชะลอตัวปรับลดลงใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนด กลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นการจับจังหวะทิศทางตลาดทุนเป็นหลัก เพื่อหาสินทรัพย์ลงทุนที่ได้ประโยชน์และสามารถมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ในแต่ละช่วงจังหวะเวลา พร้อมได้นำเสนอกองทุนใหม่SCBDBOND และ SCBMONEY ที่เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงจังหวะการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย และ SCBAM พร้อมต่อยอดความสำเร็จเปิดตัวกองทุนใหม่ SCBLOWBETA ในกลุ่มกองทุน Machine Learning จากผลการดำเนินงานย้อนหลังที่กองทุนกลุ่มนี้สามารถทำได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นในกลยุทธ์เดียวกัน อีกทั้งกลยุทธ์การลงทุนโดยใช้ Machine Learning มีจุดเด่นในด้านการวิเคราะห์   คัดเลือกหลักทรัพย์ และสร้างพอร์ตลงทุน มาอย่างต่อเนื่อง  พร้อมการตัดสินใจอย่างเป็นระบบนี้เองได้รับความสนใจในกลุ่มนักลงทุนสถาบันจัดตั้งเป็นกองทุนส่วนบุคคลด้วย

 

แนวทางที่ 2 การพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนและการขยายฐานผู้ลงทุน ในปีที่แล้ว เน้นย้ำความครบครันของกองทุนดัชนี (Index Fund) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน ทั้งดัชนีรายภูมิภาค รายประเทศ สินทรัพย์ทางเลือก และธีมเมกะเทรนด์มาแรงโดยเฉพาะกลุ่มกองทุนธีม AI ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเหนือการลงทุนในหุ้นโดยทั่วไปในปีที่ผ่านมา เช่น SCBSEMI, SCBBLOC และ SCBNDQ เป็นต้น พร้อมกันนี้ในปี 2567 SCBAM ยังพร้อมต่อยอดนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่ม Private Assets ทางเลือกช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนกลุ่ม High Net Worth เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบัน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล  ของ  SCBAM  มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 650,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% 


สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ SCBAM มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ภายใต้การบริหารเติบโตขึ้น 8% มากกว่าอุตสาหกรรมถึง 3 เท่า  ด้วยรูปแบบการลงทุนอย่างยั่งยืน มีทางเลือกการลงทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนะนำแผนการลงทุนที่เหมาะสมตามอายุของสมาชิก (Life Path) สำหรับการขยายฐานผู้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2566 มีจำนวนผู้ลงทุนที่เพิ่มขึ้นกว่า 40%YoY ด้วยความตั้งใจของ SCBAM ที่อยากมีส่วนสนับสนุนให้นักลงทุนรุ่นใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายเพื่อพิชิตเป้าหมาย 1 ล้านบาทแรก กับกลุ่มกองทุน e-class ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการบริหารจัดการ ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก มีให้เลือกทั้งรูปแบบกองทุนปกติชนิดหน่วยลงทุน e-class และกองทุนลดหย่อนภาษี SSF e-class เฉพาะบนแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click เท่านั้น

 

แนวทางที่ 3 งานบริการข้อมูลและวางแผนลงทุน ปัจจุบัน SCBAM มีระบบการให้บริการข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ SCBAM e-Service บนเว็บไซต์ของ SCBAM เป็นการให้บริการข้อมูลแบบ One Stop Platform ลูกค้าสามารถวางแผนการลงทุน จัดพอร์ตการลงทุน ติดตามสถานะการลงทุนจากทุกช่องทางได้ด้วยตนเอง พร้อมตัวช่วยวางแผนและบริหารจัดการการลงทุนกับกองทุนลดหย่อนภาษี ทั้งการตรวจสอบจำนวนเงินลดหย่อนภาษีรายปี ต้นทุนการลงทุน ผลตอบแทนที่ได้รับ จำนวนครบกำหนดขายคืนตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร นอกจากนี้ SCBAM ยังมีแผนพัฒนา Omni-Channels เพิ่มช่องทางการติดต่อและสื่อสาร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ผ่านช่องทาง Social Media และข้อมูลที่รวดเร็วผ่าน SCBAM Line Official ที่สามารถดูข้อมูลการลงทุนด้วยตนเอง หรือขอเอกสารภาษีผ่านระบบได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งทุกงานบริการจะมาพร้อมกับความมั่นคงปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับความสะดวก

 

แนวทางที่ 4 การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร SCBAM ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน เพราะเป็นหนึ่งส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ มุ่งพัฒนาองค์กรผ่านการสร้างผู้นำที่เข้มแข็ง เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าการรวมอำนาจที่ศูนย์กลาง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนความพร้อมทั้งด้านระบบงานและเทคโนโลยีทันสมัยให้สอดรับกับการทำงานแบบ Work from Anywhere พร้อมนำแนวทางการบริหารจัดการรูปแบบใหม่เพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานอย่างต่อเนื่องให้พนักงานสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีให้กับลูกค้าและองค์กร อันจะส่งผลให้ SCBAM สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และสร้างความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com