กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่เม.ย. 5,376 ราย ลดลง 10%YoY เลิกกิจการเพิ่ม 39%
          
นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน เม.ย.65 ว่า
          
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่
          
ในเดือนเม.ย. 65 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,376 ราย ลดลงจาก 5,972 รายในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 10% และหากเทียบกับเดือนมี.ค.65 ลดลง 25% จาก 7,164 ราย ส่วนมีมูลค่าทุนจดทะเบียน อยู่ที่ 171,105.77 ล้านบาท
          
ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 475 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 303 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร
จำนวน 191 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
          
หากแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่  ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 3,859 ราย คิดเป็น 71.78% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,424 ราย คิดเป็น 26.49% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 77 ราย คิดเป็น 1.43% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16 ราย คิดเป็น 0.30% ตามลำดับ

          
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ
           
ในเดือนเม.ย. 65 มีจำนวน 850 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 612 ราย หรือเพิ่มขึ้น 39% แต่หากเทียบกับเดือนมี.ค. 65 ลดลง 8% จาก 926 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 9,110.66 ล้านบาท
         
ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 95 ราย คิดเป็น 11% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 35 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 27 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
          
หากจำแนกธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน พบว่า ช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 593 ราย คิดเป็น 69.77% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 208 ราย คิดเป็น 24.47% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 38 ราย คิดเป็น 4.47% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 11 ราย คิดเป็น 1.29% ตามลำดับ

         
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่
          
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เม.ย.65) จำนวน 833,124 ราย มูลค่าทุน 19.83 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,500 ราย คิดเป็น 24.19% บริษัทจำกัด จำนวน 630,282 ราย คิดเป็น 75.65% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,342 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
          
หากจำแนกธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 494,237 ราย คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.17% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 247,258 ราย คิดเป็น 29.68% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.24% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,819 ราย คิดเป็น 8.98% รวมมูลค่าทุน 2.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.34% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,810 ราย คิดเป็น 2.02% รวมมูลค่าทุน 16.51 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.25% ตามลำดับ

          
- การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
          
ในเดือน เม.ย.65 จำนวน 50 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจจำนวน 30 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,997 ล้านบาท
          
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 15 ราย เงินลงทุน 6,715 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,218 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 8 ราย เงินลงทุน 457 ล้านบาท ตามลำดับ