Finnomena Funds (ฟินโนมีนา ฟันด์) ประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดอิสราเอล-อิหร่าน ลดระดับความรุนแรงลงแล้ว คาดส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นเท่านั้น แต่จะเป็นโอกาสเข้าทยอยสะสมในระยะยาว พร้อมแนะนำกองทุนหุ้นเวียดนาม ประเทศดาวเด่นแห่งอาเซียน
นายวศิน ปริธัญ Managing Director บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิทจำกัด ในเครือของ Finnomena Group เปิดเผยว่า “ประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ล่าสุดเราเริ่มเห็นสัญญาณลดระดับความรุนแรงจากทั้งสองฝ่ายแล้ว จึงคาดว่าความตึงเครียดรอบนี้จะมีผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากการศึกษาเหตุการณ์ในอดีตบ่งชี้ว่า สงคราม การก่อการร้าย และความไม่สงบในรูปแบบต่าง ๆ มักจะเป็นโอกาสเข้าลงทุนมากกว่าการตื่นกลัว”
ทั้งนี้ สถิติในอดีตตั้งแต่ปี 2428-2563 พบว่าเมื่อเกิดสงครามหรือการก่อการร้ายตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 จะปรับตัวลง (Total Drawdown) เฉลี่ยประมาณ -5% และทำจุดต่ำสุดเฉลี่ยใน 22 วัน หลังจากนั้นตลาดจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ภายใน 47 วัน สะท้อนให้เห็นว่าผลของสงครามนั้นกระทบต่อภาพรวมตลาดไม่มาก ฟื้นตัวได้เร็วและอาจไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมองข้ามความผันผวนในระยะสั้น อีกทั้งหากลองมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 จะพบว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นมีจำกัดเช่นกัน โดย S&P 500 ปรับลดลงราว -4% และฟื้นตัวได้ภายใน 1 เดือนหลังจากเริ่มมีการโจมตี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับสถิติในอดีตที่กล่าวไปข้างต้น
ดังนั้น จึงมองเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ เป็นจังหวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อในภาวะที่ทุกคนตื่นกลัว “Buy the Dip” โดยแนะนำทะยอยสะสมกองทุนหุ้นเวียดนาม PRINCIPAL VNEQ-A ภายใต้กรอบคำแนะนำ MEVT Call ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์พื้นฐานดีมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง-ยาว (6-12 เดือนข้างหน้า) ผ่านการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค
นายชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO Finnomena Funds กล่าวเสริมว่า “หากวิเคราะห์ในสัญญาณทางเทคนิค จะเห็นว่าดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN30) เริ่มทำสัญญาณกลับตัว หลังก่อนหน้านี้ย่อลงมาทดสอบใกล้เคียงกับแนวรับบนเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน ที่ระดับ 1,192 จุด และสามารถมีแท่งกลับตัวได้ในวันจันทร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา สะท้อนโอกาสของการเกิดรอบขาขึ้นครั้งใหม่”
จึงแนะนำเข้าลงทุนหุ้นเวียดนาม ผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ภายใต้คำแนะนำMr.Messenger Call ที่มุ่งเน้นจับจังหวะเก็งกำไรในระสั้น-กลาง ผ่านสัญญาณทางเทคนิค โดยแนะนำเข้าลงทุนที่ดัชนี VN30 ไม่เกินระดับ 1,222 จุด แนะนำ Take Profit หรือขายทำกำไร เมื่อดัชนีถึง 1,306 จุด และ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 1,138 จุดอย่างมีนัยยะ
สำหรับ PRINCIPAL VNEQ-A (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6) มีนโยบายลงทุนแบบActive ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามซึ่งเชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต เป็นกองทุนรวมหุ้นเวียดนามกองแรกของไทยและสร้างผลการดำเนินงานอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับกองทุนรวมเวียดนามอื่นๆ ในอุตสาหกรรม