บล.ทิสโก้ชี้ก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวลง ขณะที่การเมืองไทยยังไม่ชัดคำวินิจฉัยในคดีนายกฯ เศรษฐา มีความไม่แน่นอนสูง แนะนำนักลงทุนควร “มีเงินสดถือไว้บางส่วน” ไว้ในกรณีที่คำตัดสินออกมาในเชิงลบต่อนายกฯ ธีมหุ้นที่น่าสนใจแนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ Q2 จะออกมาดี และมีแนวโน้ม Q3 ดีต่อเนื่อง
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่นักลงทุนควรจับตาการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และการเมืองในประเทศ ซึ่งทั้งสองประเด็นจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยในเดือนนี้
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักจะผันผวนต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่ทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงก่อนและหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2473 หรือหลังวิกฤตเศรษฐกิจ “Great Depression” พบว่า ตลาดมักจะเคลื่อนไหวผันผวนโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนก่อนการเลือกตั้งมักจะปรับตัวลง ก่อนที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนใช้ความระมัดระวังการซื้อขายในช่วงใกล้ถึงวันเลือกตั้ง และกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งหลังมีความชัดเจนของผลการเลือกตั้งแล้ว
ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศ ประเด็นที่ยังไม่แน่นอนและมีน้ำหนักต่อตลาดจนถึงขณะนี้ คือ คดีนายกฯ เศรษฐา จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ เพราะในกรณีคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบต่อนายกฯ จะไปนำสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องเสียเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ. อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว และยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิม หรือยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนใหม่
ด้วยผลคำวินิจฉัยในคดีนายกฯ เศรษฐา มีความไม่แน่นอนสูง คาดการลงมติเสียงของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาแบบก้ำกึ่ง ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ จังหวะการลงทุนเดือนนี้ควรถือเวลาเป็นเกณฑ์มากกว่าระดับราคาหุ้น รอคดีทางการเมืองมีความชัดเจนก่อนเข้าลงทุนก็ยังไม่สาย โดย บล.ทิสโก้แนะนำนักลงทุนควรมีเงินสดถือไว้บางส่วนไว้ในกรณีที่คำตัดสินออกมาในเชิงลบต่อนายกฯ
สำหรับธีมหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ บล.ทิสโก้มองการเก็งกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 2/2567 จะออกมาดี และมีแนวโน้มไตรมาส 3/2567 ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นส่งออกและหุ้นที่มีดีมานด์จากต่างประเทศช่วยหนุน ชอบ AMATA, CENTEL, CPF, DMT, ITC, KCE นอกจากนี้ หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากเกินไป. คาดหวังเป็นจุดต่ำ (Bottom Fishing) แนะนำ AP และหุ้นที่คาดกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวในระยะสั้น COM7 เพราะฉะนั้นหุ้นเด่นในเดือนสิงหาคม คือ AMATA, AP, CENTEL, COM7, CPF, DMT, ITC และ KCE แนวรับสำคัญเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 1,280 จุด 1,290 จุด และ 1,250 จุด ตามลำดับ และแนวต้านสำคัญของเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 1,330 จุด 1,350 จุด และ 1,360 จุดตามลำดับ