Economies

AIMC ชี้ผลสำรวจฯให้น้ำหนักลงทุนตลาดเกิดใหม่ ชูบอนด์สั้นสหรัฐ-จีน-ไทย แนะหุ้นกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มเด่น 
15 ก.ค. 2565

สมาคมบริษัทจัดการลงทุนเผยผลสำรวจทิศทางการลงทุนใน 1 ปีข้างหน้า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากกว่า  ชูตราสารหนี้ระยะสั้นสหรัฐ-จีน-ไทย ตราสารทุนแนะหุ้นจีน เวียดนาม สหรัฐ กลุ่มอุตฯที่โดดเด่นแนะ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศและสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน พร้อมมองเชิงบวกกับการลงทุนในไทยรับท่องเที่ยวฟื้น ส่งออกโตดันเศรษฐกิจดี ให้น้ำหนักในหุ้นกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มเด่น "สุขภาพ-แบงก์-ท่องเที่ยวฯ" ส่วนตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือกมีทิศทางลบ


นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคม-สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยถึงแนวคิดในการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เกี่ยวกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อการทิศทางการลงทุนใน 1 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจการลงทุนในสภาวการณ์ที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง

 

ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) มีการดำเนินการออกแบบสอบถามถึงปัจจัยต่างๆ ด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อทิศทางการลงทุน การจัดน้ำหนักการลงทุน ประเทศและอุตสาหกรรมที่มีความน่าสนใจในการลงทุนใน 1 ปีข้างหน้าของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิก AIMC  ซึ่งผลการสำรวจที่ได้คือ เศรษฐกิจโลกมีลักษณะทรงตัวหรือเติบโตในอัตราลดลง โดยจะเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการลงทุนคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ปัจจัยที่เป็นตัวฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนคือ อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย

 

มุมมองด้านการจัดน้ำหนักการลงทุนในตลาดโลก ให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) มากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets)  ในด้านสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้น "ไม่ได้ให้น้ำหนัก" ไปยังสินทรัพย์ใดเป็นพิเศษ แต่การลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้น ตราสารหนี้เสียงส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นของประเทศสหรัฐฯ จีนและไทย  ตราสารทุนมีมุมมองในการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (large cap) ในประเทศจีน เวียดนามและสหรัฐฯ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างโดดเด่นคือ กลุ่มสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศและสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน

 

สำหรับมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยนั้น มีมุมมองเชิงบวก โดยมีความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยจะมีการปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นมาตรการการเปิดประเทศ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น การส่งออกที่อยู่ในอัตราการเติบโตที่ดีจากค่าเงินบาทที่มีการอ่อนตัวลง ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงจะเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุน การจัดน้ำหนักการลงทุนในประเทศนั้น เน้นให้น้ำหนักการลงทุนใน "หุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่"  การลงทุนในตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือกมีมุมมองเป็นกลางค่อนไปทางลบ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นคือ กลุ่มสุขภาพ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ

 

นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า สมาคมบริษัทจัดการลงทุนจะจัดให้มีการสำรวจมุมมองทิศทางการลงทุนของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิกอย่างต่อเนื่องไตรมาสละครั้ง ซึ่งสมาคมฯ มีความเห็นว่าข้อมูลมุมมองการลงทุนของนักลงทุนสถาบันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป ในการจัดสรรและวางแผนการลงทุนอย่างมีวินัยและเกิดประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com