รมว.ท่องเที่ยว ยืนยันโควิด “โอไมครอน” ไม่กระทบการท่องเที่ยวในประเทศ ชี้ นทท.ยังทยอยเข้าต่อเนื่อง ขีดเส้นกลุ่มเสี่ยงชัดเจน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตอบกระทู้ถามสดเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงการประเมินสถานการณ์และแผนรับมือกรณีไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ว่า สถานการณ์กลายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่มีการแพร่ระบาดในต่างประเทศ ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังยืนยันการเดินทางมาไทย โดยไม่มีการยกเลิกการเดินทาง และรัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและติดตามนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาที่เข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 64 ติดตามมาให้ได้ทุกคน เพื่อมาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นมา ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศแอฟริกาเข้าประเทศไทยอีกเลย
"ตราบใดที่ประเทศไทยยังมีการป้องกันโดยกระทรวงสาธารณสุขและคนไทยทั้งชาติช่วยกัน เขาจะตัดสินใจได้ทันทีว่าจะยังเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งจากการตรวจสอบสถิติผู้ติดเชื้อพบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยดูแลตนเองดีอยู่แล้ว ขอให้คนไทยสบายใจได้" นายพิพัฒน์ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยว กล่าวว่า กระทรวงฯ อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขถึงการเปิดผับ บาร์ หรือคาราโอเกะ ว่ามีวิธีผ่อนปรนอย่างไร และจะเปิดเป็นโซนได้อย่างไรในพื้นที่สีฟ้าที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว
นายพิพัฒน์ ยังชี้แจงอีกว่า หลังจากการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค.64 ช่วงเวลา 3 เดือนหลังจากนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 62,000 กว่าคน มีรายได้เฉลี่ยต่อคนประมาณ 60,000 บาท และประมาณการว่าปีนี้หลังจากประกาศปลดล็อกอีก 17 จังหวัด จากวันที่ 1 พ.ย. 64 ถึงวันที่ 30 พ.ย.64 มีนักท่องที่ยวต่างชาติเข้ามากว่า 1 แสนคน อีกทั้งประมาณการว่าปี 64 เฉพาะคนไทยเที่ยวในไทยประมาณ 100 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 650,000 ล้านบาท สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการประมาณการว่าปี 65 น่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท หากประเทศจีนเปิดเราจะได้นักท่องเที่ยวมากขึ้นอีก อีกทั้งการเปิดประเทศเพื่อนบ้านชายแดน ก็จะมีรายได้อีกประมาณ 3 แสนล้านบาท
โดยในเดือน พ.ย. 64 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ 3 แสนคน แต่ได้ 1 แสนคน ส่วนเดือน ธ.ค.ตั้งเป้า 3 แสนคน ซึ่งน่าจะได้ตามเป้าหมาย แต่สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ช่วงไฮซีซั่นของไทยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะกลับมาเที่ยวในเมืองไทยเหมือนอดีตที่ผ่านมา
-----------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1