พันธบัตรออมทรัพย์ “ออมอุ่นใจ” วงเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท เริ่มจองซื้อตั้งแต่ วันที่ 10 พ.ค.นี้ แบ่งขาย 2 ส่วน ในส่วนขายให้ประชาชน 3.5 หมื่น ลบ. อายุ 7 ปี ดอกเบี้ยคงที่2.7% เปิดขาย 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. ผ่านเป๋าตัง และ 4 แบงก์ใหญ่ และขายให้องค์กรไม่แสวงหากำไรอีก 5 พันลบ. อายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 2.6%
นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ ในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมอุ่นใจ วงเงินรวม40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) การจำหน่ายพันธบัตรให้แก่ประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท และผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงิน 25,000 ล้านบาทและ 2) การจำหน่ายพันธบัตรให้กับนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท
โดยมีรายละเอียดการจำหน่าย ดังนี้
1. พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมอุ่นใจบนวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 10,000 ล้านบาท เป็นรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ร้อยละ 2.70 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป โดยจัดสรรแบบ First-Come, First-Served สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 100 – 20,000,000 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 – 23 พฤษภาคม 2566 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน (กรณีเป็นผู้เยาว์จะต้องลงทะเบียนในวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง และไปยืนยันตัวตนพร้อมผู้ปกครองเพื่อกรอกเอกสารให้ความยินยอม ณ สาขาของธนาคารกรุงไทย สำหรับการซื้อครั้งแรก) ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และเติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่าน Mobile Banking หรือผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยรวมถึงเติมเงินด้วย Wallet ID ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และซื้อพันธบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
2. พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมอุ่นใจของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 ช่วง ดังนี้
• ช่วงที่ 1 เปิดจำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย วงเงิน 25,000 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อพันธบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2566 เป็นรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ร้อยละ 2.70 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) วงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ทวีคูณรอบละ 1,000 บาท และสามารถจองซื้อได้โดยไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อผ่าน Internet Banking Mobile Banking หรือเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ทั้งนี้ ลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรรในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย ผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม2566 ผ่าน SMS ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย และสามารถตรวจสอบวงเงินที่ได้รับจัดสรรผ่านวอลเล็ต สบม. ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง ผลการจัดสรรพันธบัตรในภาพรวมจะเผยแพร่ที่เว็บไซต์ สบน. www.pdmo.go.th และที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) www.bot.or.th กรณีไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินที่จองซื้อ ธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะคืนเงินค่าจองซื้อพันธบัตรในส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรเข้าบัญชีเงินฝากของผู้จองซื้อที่ได้แจ้งไว้สำหรับรับชำระดอกเบี้ยและเงินต้นภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โดยไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนอื่นใด
• ช่วงที่ 2 เปิดจำหน่ายให้แก่นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ตั้งแต่วันที่ 22 - 23 พฤษภาคม 2566 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นรุ่นอายุ 10 ปีอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ร้อยละ 2.60 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน วงเงินซื้อขั้นต่ำ1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง โดยใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ First-Come, First-Served
“วงเงินที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และวงเงินที่จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะแยกจากกัน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง ประชาชนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวนและเอกสารสรุปเงื่อนไขการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ หรือสอบถามได้กับธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง สบน. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจำหน่ายพันธบัตรในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจลงทุนกับพันธบัตรออมทรัพย์ด้วยดีเสมอมา” นางจินดารัตน์ กล่าว