Economies

ผู้ว่า ธปท. ย้ำไม่ปิดกั้นการลดดอกเบี้ย จับตาภาวะตึงตัวในระบบการเงิน -ระบุปียี้ค่าบาทผันผวนแค่ 5% ล่าสุดพลิกแข็งค่าเท่าต้นปี
24 ส.ค. 2567

"ดร.เศรษฐพุฒิ“ พร้อมปรับนโยบายดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ การเติบโตของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางที่คาด แต่อาจมีความเสี่ยงด้านต่ำมากขึ้น  พร้อมจับสัญญาณภาวะตึงตัวในระบบการเงิน  ส่วนเฟดจ่อลดดอกเบี้ย ขอติดตามดูเงินทุนเคลื่อนย้าย-อัตราแลกเปลี่ยน  ด้าน “สักกะภพ” ระบุ 8 เดือนเงินบาทแข็งค่ากลับมายืนเท่าระดับต้นปีนี้แล้วและมีความผันผวนน้อยลงกว่าปีก่อน

  

ดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) กล่าวถึงมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง. ) ครั้งล่าสุด (21 ส.ค.) ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี ว่า การพิจารณาดำเนินนโยบายการเงินจะดู 3 ปัจจัยสำคัญ คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ,ภาวะเงินเฟ้อ และเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งธปท.พูดมาตลอดว่า การพิจารณาจะยึดหลัก Outlook Dependent  หากเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ  ธปท.ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยนโยบาย  จากสถานการณ์เศรษฐกิจมีการเติบโตเข้าสู่ระดับศักยภาพราวๆ 3%หย่อนๆ  แต่สัญญาณความเสี่ยงด้านต่ำ  ตัวเลขเศรษฐกิจ ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา การลงทุนของภาคเอกชนที่ต่ำกว่าคาดการณ์  ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ เริ่มกลับเข้าสู่กรอบล่าง 1-3%  และยังไม่เห็นสัญญาณเกิดภาวะเงินฝืด

 

แต่สิ่งที่กังวล คือ เสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากกว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริง  แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเกิดภาวะตึงตัวในระบบการเงิน  ซึ่งจะติดตามกันต่อไป และพร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีความเหมาะสมตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป หากมีความตึงตัวมากกว่าที่ควรจะเป็น

 

“ในการประชุม กนง.ทุกครั้ง  จะพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพทางการเงิน ถ้าแนวโน้มออกมาใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ก็มองว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดดอกเบี้ย  แต่ถ้าแนวโน้มปรับเปลี่ยนไป เราก็ไม่ได้ปิดกั้นที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย  ในการแถลง กนง. ล่าสุด คณะกรรมการแสดงความห่วงใยเรื่องเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น”

 

สำหรับประเด็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยนโยบายลงนั้น จะเป็นแรงกดดันให้ไทยต้องปรับลดดอกเบี้ยตามหรือไม่  ดร. เศรษฐพุฒิ ตอบว่า กรณีที่เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้นอกเหนือไปจากที่คาดการณ์ไว้  อย่างไรก็ตาม กนง. ดำเนินนโยบายการเงิน จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังคำนึงถึงปัจจัยที่จะ กระทบ เช่น การดำเนินนโยบายการเงินของประเทศหลัก ที่จะกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยน

 

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งในปัจจุบันหลังจากที่อ่อนค่ามานาน ว่า  ปีนี้ ในช่วงราว 8 เดือน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ระดับเท่าต้นปีนี้ ซึ่งทำให้เงินบาทไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยและพบว่าปีนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ  ยังมีความผันผวนที่น้อยกว่าปีที่แล้ว โดยมีความผันผวนราว 5% หรือเป็น single digit เดียว ถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้วผันผวนสูงถึง 2 digit หรือ 10%ขึ้นไป พร้อมกันนี้ สกุลเงินบาทยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มเพื่อนบ้านด้วย

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com