กมธ.ไอซีที แนะเพิ่มอำนาจหน่วยงานรัฐ 3 ภาระกิจ ปราบมิจฉาชีพหลอกลวงภัยไซเบอร์ อัดยัดบัญชี เอาผิดโทษหนัก AOC พร้อมจับมือ กสทช. ออกมาตรการคุมเข้ม ต้นปีหน้า
พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา เลขานุการ คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา พร้อมคณะเดินทางเยี่ยม ศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) โดยมีหลายหน่วยงานรัฐร่วมปฏิงานเชื่อมโยงอยู่ภายในศูนย์ AOC จาก 3 ภาระกิจ ประกอบด้วย 1.กระทรวง DES กสทช. ค่ายมือถือ 2. สมาคมธนาคารไทย ผู้ให้บริการบัญชีเงินฝาก 3. ด้านปราบปราม คือ ตำรวจไซเบอร์ ปปง. หลังจากตั้งศูนย์ AOC ตั้งแต่ 1 พ.ย. 66 มีประชาชนผู้เสียหายโทรเข้าสายด่วน 1441 ร้องเรียนปัญหา ประมาณ 3,000 คู่สายต่อวัน บางวันสูงสุดถึง 5,000 คู่สาย
นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ออก พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมความปลอดภัยไซเบอร์ 6 เดือน เงินขออายัด 4,036 ล้านบาท อายัดได้สำเร็จ 810 ล้านบาท ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารได้รับการประสาน จะอายัดเงินชั่วคราวเพียง 72 ชั่วโมง จากนั้น จะเปิดให้บัญชีเงินฝาก ดำเนินการได้ตามปกติ โดยศูนย์ AOC จะประสานให้ผู้เสียหายรีบไปแจ้งความกับสถานีตำรวจใกล้เคียง เพื่อดำเนินคดี โดยตำรวจไซเบอร์ และปปง.ตรวจเส้นทางการเงิน การอายัดเงินบัญชีม้ายังทำได้เพียงชั่วคราว จึงเสนอแนะการคุมเข้มเปิดบัญชีเงินฝากหลายบัญชี จากบุคคลคนเดียวกัน การคุมเข้มใช้โทรศัพท์จากซิมเดียวโทรติดต่อหลายร้อยสายต่อวัน ขณะนี้ยังผู้ใช้โทรศัพท์ ไม่ตรงกับลงทะเบียน 50 ล้านหมายเลข ต้นเดือนมกราคมปีหน้า กสทช. เตรียมออกมาตการคุมเข้ม การลงทะเบียนมือถือ หรือการใช้ซิมหลายค่ายในบุคคลเดียว เพื่อให้มีการยืนยันตัวตน หรือการใช้งานผิดปกติ
นายนิพนธ์ นาคสมภพ โฆษกกรรมาธิการ ไอซีที วุฒิสภา กล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพ ปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลาตามสถานการณ์ เช่น การโทรแจ้งเปลี่ยนซ่อมหม้องแปลงไฟฟ้า การเปิดเว็ป ที่พักรีสอร์ท รองรับท่องเที่ยวสวยหรู จองที่พักแต่ไปแล้วไม่มีรีสอร์ท โรงแรมจริง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายอย่างมาก ในช่วงการชำระภาษีที่ดิน มักจะมีหนังสือหรือโทรหลอกลวงให้จ่ายภาษีที่ดินฯ เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ระบดับชาติ จึงแนะให้รัฐบาลยกระดับศูนย์ AOC เหมือนกับศูนย์แก้ปัญหาโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมา เมื่อภาครัฐ ทุกหน่วยงาน และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ตระหนักถึงปัญหาที่มีความรุนแรง มองว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือแก้ปัญหาได้
นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ ประธานคณะทำงานศึกษาติดตามการบังคับใช้ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กมธ.ไอซีที วุฒิสภา กล่าวเสนอแนะ แก้ปัญหาซิมผี บัญชีม้า ต้องหาทางเยียวยาความสูญเสียผู้ได้รับผลกระทบ การเสนอแนะแก้ไขกฎหมายปรับเพิ่มอำนาจหน่วยงานรัฐทั้ง 3 ภาระกิจ ทั้งสถาบันการเงิน ค่ายมือถือ ฝ่ายปราบปราม เข้าปราบปราม ลงโทษขั้้นเด็ดขาด และรวดเร็ว ทันสถานการณ์เมื่อต้องโอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ ขอให้นำข้อมูลสถิติการแก้ปัญหาของต่างชาติที่ประสพความสำเร็จ มาปรับใช้กับเมืองไทย ธนาคารควรต้องหน่วยงานดูแลหรือระงับธุรกรรมที่ผิดปกติ รัฐบาลควรประสานกับประเทศเพื่อนบ้านปราบปรามอย่างจริงจัง ต้องจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่ให้ประชาชนตื่นกลัวกับปัญหา รู้เท่าทันกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพ