บลจ.กสิกรไทย คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยสิ้นปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2% โดยปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ตราสารหนี้ไทยมีความน่าสนใจและเข้าลงทุนได้ จึงเสนอขายกองทุนเปิดเค พันธบัตร 1 ปี C (KGB1YC) ชูความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ (Credit Risk) มีกำหนดเปิดขาย 9-16 ม.ค.นี้
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เสนอขายกองทุนเปิดเค พันธบัตร 1 ปี C (KGB1YC) ที่มีนโยบายลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์การถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนไว้จนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยประมาณการผลตอบแทน 1.20% ต่อปี มีกำหนดเปิดขายในระหว่างวันที่ 9 - 16 มกราคม 2566
“สภาพตลาดตราสารหนี้ในปัจจุบันมีการตอบรับ (Priced-in) อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับประมาณ 1.75-2.00% แล้ว จากปัจจุบันที่ 1.25% โดยจะปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ อย่างไรก็ดี หากกองทุน KGB1YC มีการลงทุนในพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเต็มจำนวน จากการที่ตราสารที่กองทุนเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐของประเทศไทยเกือบทั้งหมด ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงวางใจได้ว่ากองทุน KGB1YC มีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำมาก” นายชัชชัยกล่าว
นายชัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KGB1YC เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนภายในระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บลจ.กสิกรไทยจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง