บลจ.ดาโอ รุกลงทุนตลาดค่าเงิน 14 สกุลทั้วโลก เปิดขาย ‘กองทุน DAOL-FXALPHA-UI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' สร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากค่าเงิน ชูกลยุทธ์ Long-Short Strategy' ลงทุนได้ทั้งตลาดขาขึ้นและลง ตามภาวะค่าเงินที่สะท้อนผ่านปัจจัยเศรษฐกิจโลก เริ่มขายครั้งแรก 13-20 ธ.ค. 2565
นางสาวนิสารัตน์ ชมภูพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด หรือ บลจ.ดาโอ เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดสินทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีมีความผันผวนสูง ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูงกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลง ส่งผลให้สินทรัพย์ต่างๆ (Asset Class) แบบดั้งเดิม ไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นการลงทุนที่สามารถเข้าถึงแหล่งผลตอบแทนที่หลากหลาย จึงมีความจำเป็นเพื่อสร้างความยืดหยุ่นกับพอร์ตลงทุน โดยการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ประเภทสกุลเงินเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในสภาพตลาดผันผวน และเมื่อพิจารณาสภาวะตลาดของแต่ละประเทศที่แตกต่างทางปัจจัยด้านทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้สกุลเงินของแต่ละประเทศอ่อนค่าและแข็งค่าต่างกันตามมูลค่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ
"กล่าวคือ นโยบายของธนาคารกลาง อัตราดอกเบี้ย การค้า การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ ความต้องการถือครองค่าเงิน การเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์และปัจจัยในประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยเฉพาะที่ส่งผลต่อค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะเดียวกันจากข้อมูล (BIS Triennial Central Bank Survey 2019) พบว่า ปริมาณการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วโลกมีมูลค่าถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน สะท้อนสภาพคล่องที่มีสูงกว่าตลาดหุ้นถึง 25 เท่า และเป็นการซื้อขายรูปแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งนักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงตลอด24 ชั่วโมง"
บลจ.ดาโอ มองเป็นโอกาสลงทุนในสกุลเงินทั่วโลก จึงเปิดเสนอขาย IPO 'กองทุนเปิดดาโอ เอฟเอ็กซ์ อัลฟ่า ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (DAOL-FXALPHA-UI ) 'มีความเสี่ยงระดับสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ (8+) จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 13-20 ธ.ค. 65 โดยมีนโยบายลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงในสกุลเงินหลักต่างประเทศ โดยมีสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ (USD) เป็นสกุลเงินอ้างอิงหลัก (Base Currency) เทียบกับอีก 14 สกุลเงินและทองคำ ผ่านกองทุนหลัก P/E FX Strategy FUND บริหารโดย P/E Investments ผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการสกุลเงิน เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนและช่วยกระจายความเสี่ยงกับพอร์ตลงทุนในระยะยาว ด้วย 'กลยุทธ์ Long-Short Strategy'
ทั้งนี้ด้วย 3 ปัจจัยเศรษฐกิจหลักได้แก่ ผลตอบแทน (Yield) จากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาวของแต่ละประเทศ , ความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้าย(Capital Flow) ในแต่ะประเทศ มีผลต่อค่าเงิน จึงเป็นโอกาสให้สามารถบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทน โดยผู้จัดการกองทุนมีการติดตามผลการดำเนินงานเป็นรายวัน และปรับพอร์ต ตามสภาวะตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลง ทำให้กองทุนสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนอย่างโดดเด่น โดยพบว่าย้อนหลัง 1 ปีกองทุนให้ตอบแทนอยู่ที่ 38.55% ย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 66.77% ย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ 105.54% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 376.71% (ที่มา: Expanded Introduction to the FX Strategy ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 2565)
นอกจากนี้ด้วยสภาพตลาดปัจจุบันกองทุนลงทุนถือสถานะ Long ในสกุลเงินที่มีแนวโน้มแข็งเมื่อเทียบกับ USD 5 อันดับแรกได้แก่ สกุลเงิน CDA ,GLD , MXN , NZD, ZAR และถือสถานะ Short ในสกุลเงินที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ USD 5 อันดับแรกได้แก่ JPY, EUR , AUD, SEK, NOK (ที่มา: P/E FX STRATEGY FUND ข้อมูลณ วันที่ 30 กันยายน 2565)
PE Investment เป็นบริษัทจัดการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตจาก กลต.สหรัฐฯ ก่อตั้งปี1995 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้บริการทั้งลูกค้ารายบุคคล และนักลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยมีออฟฟิศที่ประเทศสิงคโปร์ และเมลเบิร์นออสเตรเลีย มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการ (Assets Under Management) อยู่ที่ 14 .9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.38 แสนล้านบาท) โดยกลยุทธ์การลงทุนFX Strategy ได้เป็นความเชี่ยวชาญหลักของทางบริษัท คิดเป็น 89% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการ (ที่มา: Expanded Introduction to the FX Strategy ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2565)
"ด้วยความแตกต่างของค่าเงินแต่ละประเทศที่เคลื่อนไหวตามพื้นฐานเศรษฐกิจ และด้วยสภาพคล่องที่สูง อีกทั้งมีความสัมพันธ์ต่ำ (Low Correlation) เมื่อเทียบกับหุ้นและตราสารหนี้ บลจ.ดาโอ จึงมองว่า การลงทุนในตลาดสกุลเงินทั่วโลก 14 สกุลเงินและทองคำ ผ่าน 'DAOL-FXALPHA-UI' เป็นทางเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาว" นางสาวนิสารัตน์กล่าว