Economies

สัปดาห์นี้ คาดเงินบาทแกว่งในกรอบ 33.45-33.90 แนวโน้มดอลลาร์แข็ง ติดตามประธานเฟด การสู้รบในยูเครนยืดเยื้อ
18 เม.ย 2565

กรุงศรีมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ดันค่าเงินดอลลาร์แข็ง  สัปดาห์นี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ  33.45-33.90 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามสุนทรพจน์ประธานเฟด หลังเงินเฟ้อยังสูงเกินคาด  บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ทำนิวไฮ  ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ขณะที่การสู้รบรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ และมาตรการล็อคดาวน์ในจีน กระทบคอขวดห่วงโซ่การผลิตและกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่วนไทยเงินเฟ้อสูง แต่ตลาดแรงงานยังเปราะบาง กนง. ซื้อเวลาคงดอกเบี้ยพยุงเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.45-33.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.64 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.55-33.70 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินเยนและเงินยูโรอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี และ 2 ปี ตามลำดับ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ระยะ 10 ปีของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ สูงเกินคาด แต่เงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 

 

ทางด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงดอกเบี้ยและยืนยันแผนการที่จะปรับลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรและจะยุติโครงการดังกล่าวในไตรมาส 3/65  ขณะที่อีซีบียังคงคลุมเครือเกี่ยวกับกรอบเวลาสำหรับการเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยไม่กี่สัปดาห์หรืออาจจะหลายเดือนหลังจากยุติมาตรการซื้อสินทรัพย์ 

 

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 347 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 6,710 ล้านบาท 

 

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรีคาดว่า นักลงทุนจะติดตามสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก, การแทรกแซงด้วยวาจาของทางการญี่ปุ่นต่อการอ่อนค่าและความผันผวนของค่าเงินเยน รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสุดท้าย ขณะที่การสู้รบอย่างยืดเยื้อในยูเครนและมาตรการล็อคดาวน์ในจีนสร้างความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะคอขวดของห่วงโซ่การผลิตและผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยค่าเงินดอลลาร์อาจได้แรงหนุนต่อเนื่องในระยะสั้นเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสดใสกว่าประเทศชั้นนำอื่นๆ 

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดรับรู้แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปค่อนข้างมากแล้ว ทั้งโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bp (0.50%)ในการประชุมเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนควบคู่ไปกับการลดขนาดงบดุลของเฟด ในภาวะเช่นนี้ เรามองว่าโมเมนตัมขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์อาจแผ่วลงในช่วงครึ่งหลังของปี 

 

สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนมีนาคม แนวทางผ่อนปรนเกณฑ์ผู้เดินทางเข้าไทย และสถานการณ์ผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์ ทางด้านรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 30 มีนาคมระบุว่า กนง.ประเมินเงินเฟ้อที่สูงขึ้นยังส่งผ่านไปยังค่าจ้างได้จำกัด เพราะการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังเปราะบาง โดยกนง. มองว่า เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นและมีความเสี่ยงลดลง กนง.จะปรับเปลี่ยนการให้น้ำหนักแต่ละเป้าหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com