บมจ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 ชุด รุ่นอายุ1 ปี 5 เดือน 26 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม นี้ ซึ่งบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 พร้อมแต่งตั้งธนาคารกรุงไทยธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยจะนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2567
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินเผย NOBLE เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 2 ชุด โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 5 เดือน 26 วัน อัตราดอกเบี้ย4.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.25% จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2566 โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม 2567 จำนวน 1,800 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทฯ ยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้เพิ่มเติมจากที่ครบกำหนด เพื่อรักษาวินัยทางการเงิน ทั้งนี้บริษัทฯ และหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งถือเป็นระดับ Investment grade หรือเรียกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้
โดยที่ผ่านมา “NOBLE” ได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ที่ระดับ “AA” และยังอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 2 ปี ติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมเศรษฐกิจและบรรษัทภิบาล หรือ ESG
ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของ ปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้รวม 7,274 ล้านบาท เติบโต 54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 719 ล้านบาท เติบโต 517% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยหลักๆ จะมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นจากรายได้รวมที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนคือบริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการนิว ครอส คูคต สเตชันให้กับบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆที่ได้รับในฐานะเป็นผู้บริหารโครงการร่วมทุน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการบริหารโครงการ (Management Fee) ค่าธรรมเนียมแรงจูงใจ (Incentive Fee) ค่าธรรมเนียมความสำเร็จของธุรกิจ (Success Fee) อีกด้วย
สำหรับยอดขาย (Presale) ในช่วง 10 เดือนของปี 2566 (มกราคม-ตุลาคม) อยู่ที่ระดับกว่า 12,288 ล้านบาท (ไม่รวมยอดขายของโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน) ซึ่งเป็นผลมาจากสินค้าพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากด้วยรูปแบบโครงการและทำเลที่มีศักยภาพของโครงการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน(Backlog) ล่าสุดในมือรวมมูลค่ากว่า 19,492 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ NOBLE ยังมีสินค้าพร้อมอยู่และกำลังพัฒนาในมือกว่า 35,253 ล้านบาท โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 6 โครงการมูลค่ารวม 17,100 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการนิว คอร์คูคต สเตชัน 2.โครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ 3.โครงการโนเบิล อเวย์ ชะอํา 4.โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 –เอกมัย 5.โครงการโนเบิล เอควาริเวอร์ฟร้อนท์ราษฎร์บูรณะ และ 6. โครงการ ดิ เอ็มบาสซี่ ไวร์เลส นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวอีก 2 โครงการใหม่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีมูลค่ากว่า 3,100 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2566 บริษัทฯ เปิดตัวโครงการรวมทั้งหมด 8 โครงการมูลค่ารวม 20,200 ล้านบาท