Economies

`กอบศักดิ์` ชี้เข้าสู่เฟส 2 สงครามระหว่างเงินเฟ้อ-เฟด
28 ก.ค. 2565

"กอบศักดิ์" ชี้เข้าสู่เฟส 2 สงครามระหว่างเงินเฟ้อ-เฟด ตลาดกังวลศก.สหรัฐถดถอย
         
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการเข้าสู่เฟส 2 ของสงครามระหว่างเฟดกับเงินเฟ้อ โดยระบุว่า หลังจากการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นต่างๆ ปรับตัวขึ้น เช่น ดัชนี Dow Jones +500 จุด หรือ +1.6% ดัชนี Nasdaq +480 จุด หรือ +4.1% ขณะที่ Bitcoin บวกเกือบ 2,000 ดอลลาร์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเฟดกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ของสงครามที่นักลงทุนเริ่มเห็นว่า 1.สูตรยาของเฟดเริ่มแรงพอ และ 2.ยาเริ่มออกฤทธิ์
          
โดยมุมมองที่นักลงทุนเห็นว่า "สูตรยาของเฟดเริ่มแรงพอ" เนื่องจากไม่มี surprise ในสิ่งที่ประธานเฟดพูด เพราะนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มสงครามกับเงินเฟ้อมาที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าตลาดเคยกลัว จาก 2 สัปดาห์ที่แล้ว ที่ตลาดเคยคาดว่าเฟดคงจะต้องขึ้น 1% แต่หลังฟังคำพูดของกรรมการบางส่วน ตลาดก็ค่อยๆ ปรับการคาดการณ์ว่าครั้งนี้คงจะขึ้นประมาณ 0.75% พร้อมแอบกลัวอยู่ลึกๆ ว่าจะมีอะไรมากเกินที่คิด แต่สุดท้ายเฟดก็มาตามนัด 
          
"เรื่องนี้มีนัยยะ เพราะจากที่เฟดเคยมือหนัก ใส่ยาแรงกว่าที่เคยบอกไว้เสมอ บอก 0.25% ก็ขึ้น 0.5% บอก 0.5% ก็ขึ้น 0.75%
ครั้งนี้ บอก 0.5-0.75% ก็ทำตามที่พูด 0.75% หมายความว่า สูตรยาที่เฟดจ่าย เริ่มแรงพอ ไม่มีแถม" นายกอบศักดิ์ ระบุ
          
นอกจากนั้น ประธานเฟดยังบอกระหว่างแถลงว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% เป็นการขึ้นที่มาก และเป็นขนาดที่ไม่ปกติ ถ้าข้อมูลชี้ว่ายังจำเป็นอยู่ ครั้งหน้าคงขึ้น 0.75% อีกครั้ง แต่ 1.0% ไม่ค่อยได้พูดถึงกัน ทำให้ตลาดโล่งใจว่าที่แย่ๆ เฟดต้องมือหนัก ได้ผ่านไปแล้ว
          
ส่วนอีกมุมมองที่นักลงทุนเห็นว่า "ยาเริ่มออกฤทธิ์" เนื่องจากความกังวลใจเริ่มเปลี่ยน ภาษาที่เฟดใช้เริ่มเปลี่ยน โดยในแถลงการณ์ล่าสุด เริ่มบอกว่าการใช้จ่ายและการผลิตเริ่มอ่อนตัวลง การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ความคึกคักของภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มลดลง การลงทุนของภาคธุรกิจก็หดตัวลง
          
"คำพูดเหล่านี้ ถ้าจะว่าไปแล้ว คงเป็นครั้งแรกรอบนี้ที่เฟดเริ่มใช้ จากเดิมจะบอกว่าแข็งแรง ดีเกินคาด ดีที่สุดในรอบหลายสิบปี สะท้อนว่ายาเริ่มออกฤทธิ์ตามที่เฟดตั้งใจให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และหมายความต่อไปว่าสูตรยา "น่าจะแรงพอ" อย่างที่บอกไปข้างต้น" นายกอบศักดิ์ ระบุ
          
นอกจากนี้ ที่น่าสนใจอย่างยิ่งระหว่างที่ฟังคำถามจากผู้สื่อข่าวก็คือ "ความกังวลใจของทุกคนเริ่มเปลี่ยน" จากช่วงก่อนหน้า เดิมกังวลใจว่าจะเอาเงินเฟ้อไม่อยู่ เงินเฟ้อกำลังพุ่ง และไม่รู้ว่าจะพุ่งไปถึงที่ไหน แต่ตอนนี้ผู้สื่อข่าวเริ่มคิดว่า เงินเฟ้อน่าจะเริ่ม Peak และดีขึ้นในช่วงถัดไป จึงไม่เน้นถามเรื่องเงินเฟ้ออย่างเคย แต่กลับมากังวลใจเรื่องใหม่แทน ก็คือ Recession เช่น การตั้งคำถามว่าเราอยู่ใน Recession หรือยัง และจะวัดอย่างไร, ถ้าวันพรุ่งนี้ ตัวเลข GDP Q2 ออกมาติดลบ จะถือว่า Recession หรือยัง, เฟดจะลดดอกเบี้ยเมื่อไร และเงื่อนไขอะไรที่จะทำให้เฟดลดดอกเบี้ย
          
เรียกได้ว่าเป็น "หนังคนละม้วน" กับช่วงก่อนหน้า จากที่มักจะถามว่า "จะใส่ยาแรงกว่าเดิมอีกไหม" ตอนนี้เริ่มกลายเป็น "จะลดยาเมื่อไร" ยอมรับกับความจริงว่า การต่อสู้ของเฟดกับเงินเฟ้อกำลังเข้าสู่ช่วง 2 และ Recession รออยู่
          
นายกอบศักดิ์ มองว่า Soft landing คงเกิดยาก เพราะแม้แต่ประธานเฟดยังบอกว่า หนทางไปสู่จุดนั้น ดูยากขึ้นเรื่อยๆ โดยประธานเฟดได้ขอให้ทุกคนทำใจ เศรษฐกิจจะต้องตก ต้องแผ่วไปช่วงหนึ่ง (below trend) แต่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหมายความต่อไปว่า คนจะต้องตกงาน บริษัทต้องปิด แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในระยะยาว
          
"ทั้งหมดนี้รวมแล้วหมายความว่า เราได้เข้าสู่ Phase 2 ของสงครามของเฟดกับเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังตายใจไม่ได้ 
เพราะสิ่งที่ประธานเฟดยังไม่ยอมบอก ยังตอบเลี่ยงไปมา ก็คือ ดอกเบี้ยสุดท้ายแล้วจะต้องขึ้นไปสูงสุดแค่ไหน ต้องจ่ายยาอีกเท่าไร อีกกี่รอบจึงจะเอาอยู่ เรื่องนี้จะสำคัญต่อไป เพราะตลาดยังคิดว่า 3.5-3.8% น่าจะพอ แต่ท้ายที่สุดแล้ว อาจต้อง surprise เป็นระยะๆ ทุกๆ 6-8 สัปดาห์" นายกอบศักดิ์ ระบุ


 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com