บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกเพื่อเสริมโอกาสการเกษียณอย่างมั่งคั่งกับกองทุน RMF น้องใหม่ “KUS500XRMF” เน้นลงทุนหุ้นยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ 500 ตัว ตามดัชนี S&P500 มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณเข้าสู่ภาวะถดถอย และยังมีปัจจัยสนับสนุนต่อการเติบโตในระยะยาว แนะเก็บหุ้นสหรัฐฯ เป็น Core Port ในสัดส่วน 25% ของพอร์ต พร้อมรับข้อเสนอพิเศษเมื่อลงทุนแบบ DCA เปิดขายครั้งแรก 14 - 20 ส.ค.นี้

นายปณตพล ตัณฑวิเชียร, CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย)เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสูงกว่าประเทศอื่นๆจึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้สร้างทางเลือกเพื่อเสริมโอกาสการเกษียณอย่างมั่งคั่งไปกับหุ้นยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ผ่านกองทุน RMF น้องใหม่ล่าสุด “กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส พาสซีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KUS500XRMF”โดยมีกำหนดเปิดขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 14 - 20 สิงหาคม 2567

นายปณตพลกล่าวต่อไปว่า กองทุน KUS500XRMF มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF ที่เน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 500 ตัว ตามดัชนี S&P500 โดยมูลค่าของบริษัทใน S&P500 คิดเป็น 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ทั้งหมด และกระจายอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ประกอบไปด้วยหุ้นชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ เจ้าของระบบ Windows และ Office ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก, Apple ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, Amazon ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ และ Meta ผู้นำด้านการให้บริการโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Facebook และ Instagram เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 67)

“เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณเข้าสู่ภาวะถดถอย และยังคงมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะถัดไปเป็นปัจจัยสนับสนุนกำไรของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่ม 7 นางฟ้า ทำให้การเติบโตของกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่กระจุกตัว อย่างไรก็ตาม อาจมีปัจจัยเข้ามากระทบตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะสั้นได้บ้างจากนโยบายหาเสียงในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ” นายปณตพลกล่าว

นายปณตพลกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้มีกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน (Core Portfolio) ในสัดส่วนประมาณ 25% นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้จัดโปรโมชั่นรับ Fund Back 0.2% ของยอดลงทุนสะสม (สูงสุด 1,200 บาท) เมื่อลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar-Cost Averaging : DCA) ในกองทุน KUS500XRMF และ/หรือ RMF/SSF/ThaiESG กสิกรไทย ผ่านบริการ K-Saving Plan และ/หรือ Investment Plan ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 30 ธ.ค. 67