Economies

InnovestX คัด 5 กองทุนฮอตในตลาดต่างประเทศ โอกาสเติบโตระยะยาวช่วงหุ้นไทยซึม
16 ส.ค. 2567

บล.  อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เดินหน้าดันตลาดกองทุน คัดและเคาะกองทุนยอดนิยมที่นักลงทุนมีติดพอร์ต ล่าสุด ส่ง 5 กองทุนยอดนิยมลงทุนในตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว แม้ในภาวะตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วง Sideway และการเมืองไทยที่ยังไม่แน่นอน ได้แก่ 1. SCBWORLD(A) กองทุนหุ้นโลก กระจายลงทุนทั่วโลกได้ในกองทุนเดียว 2. SCBS&P 500, SCBS&P500(A) ลงทุนใน S&P500 ดัชนีที่แข็งแกร่งและมีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐฯ 3. SCBSEMI(A) กองทุนหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ หัวใจหลักของโลกอนาคต 4. Principal VNEQ-A กองทุนหุ้นเวียดนาม ที่มีศักยภาพและเติบโตสูง 5. UGISFX-N กองทุนตราสารหนี้โลกคุณภาพดี จาก PIMCO พร้อมส่งโปรโมชันหั่นค่าธรรมเนียม 50% (Front-end fee) สำหรับลูกค้า InnovestX เท่านั้น ตั้งแต่ 1 ส.ค. 67 – 30 ส.ค. 67

 

นายพยนต์ พงศาวรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานฝ่าย Wealth Products and Strategy  บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า  “InnovestX ประเมินมุมมองด้านเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัว โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะ Soft landing เนื่องมาจากธนาคารกลางหลายประเทศรวมถึงเฟด จะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้นด้วยการลดดอกเบี้ย ซึ่ง InnovestX มีมุมมองว่าเฟดจะมีการลดดอกเบี้ย 2 – 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ในระยะสั้นภาพการลงทุนอาจจะมีความผันผวนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวดังกล่าว รวมถึงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี ดังนั้นจึงมองการปรับฐานของตลาดเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการลงทุนในพอร์ตผ่านกองทุนคุณภาพ ที่มีการกระจายการลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อหาโอกาสการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ในภาวะตลาดหุ้นไทยยัง Sideway จากปัจจัยรุมเร้าทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง”

 

5 กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ

-SCBWORLD(A): กองทุนหลัก iShares MSCI World ETF (USD) มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive โดยอ้างอิงดัชนีหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว รวม 23 ประเทศ สัดส่วนหลักของพอร์ตการลงทุนจะกระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการทางด้านสุขภาพ กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เหมาะสำหรับการเป็นจุดเริ่มต้นในกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว มีความมั่นคง มีความโปร่งใส และมีสภาพคล่อง

 

-SCBS&P 500, SCBS&P500(A): S&P500 Indexมีมูลค่าตลาดกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง และมีผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง 11.02%ต่อปี มีการกระจายการลงทุนครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มบริโภค ประกอบด้วยหุ้นชั้นนำที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้นำตลาดในด้านต่างๆ เช่น Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta, Nvidia และ Tesla เป็นต้น

 

-SCBSEMI(A): กองทุนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์(Semiconductor) หัวใจหลักของอุตสาหกรรม AI และนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต โดยสถาบัน Social Impact Assessment (SIA) คาดการณ์ว่าตลาดSemiconductor จะมีมูลค่าแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2573 ความต้องการที่มีมากขึ้นทำให้เกิดโอกาสที่จะเกิดการขาดแคลนชิป ซึ่งเป็นตัวเร่งให้บริษัทผู้ผลิตชิปได้ประโยชน์จากการขายในราคาที่สูงขึ้น

 

-Principal VNEQ-A: ADB (Asian Development Bank) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะมีการเติบโตเฉลี่ย 6.0% ในปี 2567 และ 6.2%ในปี 2568 โดยเวียดนามเป็นประเทศโดดเด่นที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีโอกาสเติบโตจากภาคการบริโภคในประเทศจากการเติบโตของชนชั้นกลางวัยหนุ่มสาว โดยกองทุน Principal VNEQ-A สามารถสร้างผลตอบแทนอันดับ 1 ในปี 2566 ในกลุ่มกองทุนเวียดนามในไทยเทียบกับกองทุนหุ้นเวียดนามในไทย

 

- UGISFX-N: ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก ผ่านกองทุนPIMCO GIS Income เป็นกองทุนหลัก โดยนับตั้งแต่จัดตั้งในปี 2555 PIMCO GIS Income Fund สามารถสร้างผลตอบแทนในสกุลเงิน USD ได้เฉลี่ย 5.05% ต่อปี โดยในสภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ตราสารหนี้ จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต ทั้งนี้ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตราสารหนี้มีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างราคาตราสารหนี้ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น (Capital Gain) ซึ่งเป็นส่วนเสริมในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมนอกเหนือจากดอกเบี้ยที่ได้รับ (Coupon)

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com