อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดผลดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นมิ.ย. 65 มีรายได้ 3.06 ล้านดอลลาร์ ทรงตัวเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้ของภาคการค้าจีนลดลง แต่มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจคลาวด์โต 10%เข้ามาชดเชย หากดูเฉพาะรายได้จากผลดำเนินงาน 3.724 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 19% กำไรก่อนปรับปรุง(EBITA) 5.1 พันล้านดอลล์ ลดลง 18% ปักธงแผนการเพิ่มฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เศรษฐกิจหลัก หนุนความหลากหลายฐานลูกค้า
อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA และ HKEX: 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสเดือนมิถุนายน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ผ่านมา อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมระดับมหภาค และยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานตามกลยุทธ์ระยะยาว โดยยังคงเสริมสร้างขีดความสามารถองค์กรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า หลังผ่านพ้นช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่การขับเคลื่อนเป็นไปค่อนข้างช้า ก็มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจต่าง ๆ ของอาลีบาบาในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อาลีบาบา กรุ๊ปมีความเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตระยะยาว อันเนื่องมาจากฐานผู้บริโภคคุณภาพสูง และความยืดหยุ่นของรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า
โทบี ซู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า ในธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ อันเนื่องมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ล่าสุด เราได้เปิดเผยถึงแผนการเพิ่มฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เศรษฐกิจหลักที่เราให้ความสำคัญ เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และนิวยอร์ก ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะขยายและเพิ่มความหลากหลายในฐานนักลงทุนของเราต่อไป” โทบี ซู กล่าว
ผลประกอบการทางธุรกิจไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 อาลีบาบา กรุ๊ป มีรายได้ 205,555 ล้านหยวน (30,689 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยังคงที่เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ของภาคการค้าจีนที่ปรับตัวลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลืออยู่ที่ 141,935 ล้านหยวน (21,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถูกชดเชยโดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจคลาวด์ ที่โตขึ้น 10% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี คิดเป็น 17,685 ล้านหยวน (2,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รายได้จากการดำเนินงาน อยู่ 24,943 ล้านหยวน (3,724 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 19% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ขณะที่ตัวเลข EBITA (กำไรก่อนการปรับปรุง) ซึ่งเป็นรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) ปรับตัวลดลง 18% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี เหลืออยู่ที่ 34,419 ล้านหยวน (5,139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รายได้สุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญ อยู่ 22,739 ล้านหยวน (3,395 ล้านเหรียญสหรัฐ) และรายได้สุทธิ อยู่ที่ 20,298 ล้านหยวน (3,030 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รายได้สุทธิแบบที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) อยู่ที่ 30,252 ล้านหยวน (4,517 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 30% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ EBITA (กำไรก่อนการปรับปรุง) และส่วนแบ่งจำนวนหุ้นของผู้ลงทุน ตามวิธีส่วนได้เสียที่ลดลง
รายได้ปรับลดต่อ ADS อยู่ที่ 8.51 หยวน (1.27 ดอลลาร์สหรัฐ) และกำไรต่อหุ้น อยู่ที่ 1.06 หยวน (0.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.24 ดอลลาร์ฮ่องกง) กำไรปรับลดแบบ Non-GAAP ต่อ ADS อยู่ที่ 11.73 หยวน (1.75 ดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 29% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี และกำไรต่อหุ้นปรับลดแบบ non-GAAP อยู่ที่ 1.47 หยวน (0.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.72 ดอลลาร์ฮ่องกง) ลดลง 29 % ปีต่อปี
เงินสดสุทธิที่ได้มาจากการดำเนินงาน คิดเป็นมูลค่า 33,869 ล้านหยวน (5,057 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับ 33,603 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 ขณะที่กระแสเงินสดอิสระที่คำนวณแบบ Non-GAAP มีมูลค่าคิดเป็น 22,173 ล้านหยวน (3,310 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับ 20,683 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564